จัดสรรสินทรัพย์รับแนวโน้มเศรษฐกิจถดถอย

134

คอลัมน์ KTBST Build  Your Net Worth

บรรยากาศของตลาดเงินตลาดทุนตอนนี้ดูไม่เอื้อต่อการลงทุนเท่าไรนัก ภาพรวมของตลาดในสัปดาห์นี้ยังดูรุนแรงหนักขึ้น สะท้อนจากการที่รัฐบาลหลายประเทศทั่วโลกใช้มาตรการรับมือและกระตุ้นเศรษฐกิจจากปัญหาการระบาดของ COVID-19 หลายประเทศใช้ยกระดับการรับมือเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปิดพรมแดนห้ามเดินทางของเยอรมันและฝรั่งเศส การปิดประเทศของมาเลเซีย และการปิดเมืองต่างในสหรัฐฯ

ทางด้านตลาดหุ้นเจอผลกระทบที่รุนแรงเพิ่มขึ้น ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีการหยุดพักการซื้อขาย (Circuit breaker) รอบที่ 3 ใน 2 สัปดาห์ เช่นเดียวกับหุ้นไทยที่เจอการCircuit breaker ไป 2 ครั้งแล้วและได้เห็นดัชนีร่วงลงไปหลุดระดับ 1,000 จุดแล้ว โดยมาตรการทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯล่าสุด ที่ใช้นโยบายเชิงรุกฉุกเฉินด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยกว่า 1% พร้อมการอัดฉีดเงินเพื่อกระตุ้นสภาพคล่องประมาณ 7 แสนล้านเหรียญฯ เป็นสิ่งที่นักลงทุนมองว่าธนาคารกลางหรัฐฯ (Fed) กำลังกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจที่กำลังถดถอยและอาจเกิดการผิดนัดชำระหนี้ในระบบศรษฐกิจ อีกทั้งรายงานตัวเลขเศรษฐกิจจีนของจีน 2 เดือนแรกรายของปีนี้ติดลบอย่างรุนแรงกระทบการขยายตัวของเศรษฐกิจไตรมาสแรกนี้

ประเด็นที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้คือการรายงานตัวดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีในเดือนมี.ค. คาดว่าจะชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้า จากผลกระทบของ COVID-19 ที่กดดันการขยายตัวเศรษฐกิจทั่วโลกทั้งในภาคอุปสงค์และอุปทานสินค้าอุตสาหกรรมและสินค้าโรงงาน

นอกจากนี้ยังมีการรายงานยอดจำหน่ายสินค้าปลีกของสหรัฐฯ คาดว่าชะลอตัวลงอีกทั้งการระบาดของไวรัสยังกดดันภาคการบริโภคเนื่องจากประชาชนไม่สามารถออกไปใช้จ่ายได้ตามปกติ

การจัดสรรสินทรัพย์ลงทุนในช่วงนี้ทาง KTBST SEC ประเมินว่าด้วยตลาดสินทรัพย์เสี่ยงในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา ยังคงแกว่งตัวผันผวนสูง ด้วยผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่รุนแรงไปทั่วโลก และจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ปรับลดดอกเบี้ยฉุกเฉิน  (Emergency cut) ถึงสองครั้งในรอบสองสัปดาห์ เป็นการสร้างความตกใจให้กับนักลงทุนว่าเศรษฐกิจอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยและอาจเกิดการผิดนัดชำระหนี้ต่างๆในระบบเศรษฐกิจ  

โดยภาพรวมการลงทุน KTBS SEC ยังคงแนะนำให้กระจายการลงทุนในหลายสินทรัพย์ภายใต้การจัดสรรการลงทุนแบบ Conservative เน้นลงทุนในตราสารหนี้ 70% – 80% ของพอร์ต สินทรัพย์ทางเลือกอย่างทองคำและกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ 5% -10% ของพอร์ตและหุ้นต่างประเทศอย่างจีน 5% – 10% ของพอร์ต และที่เหลือถือเป็นเงินสดครับ ติดตามข่าวสารการลงทุนได้จาก ”มุมความรู้”  https://www.ktbst.co.th/th/knowledge.php

โดย คุณชาตรี  โรจนอาภา รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ 

บล. เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (KTBST)

www.mitihoon.com