ตลาดรับปัจจัยลบต่อ แนะหุ้นเทคโนโลยี , e-Commerce ยังน่าลงทุน

231

สัปดาห์นี้การลงทุนคงต้องใช้กลยุทธ์ตั้งรับกันอีกครั้ง เนื่องจากสถานการณ์ค่อนข้างจะเจอปัจจัยลบกดดันมากพอสมควร ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ปรับตัวลงอย่างแรง  จากเรื่องจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นทั่วโลก และมีการเตรียมจะใช้มาตรการ Lock Down อีกครั้งในหลายประเทศ สร้างความกังวลให้กับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกอีกครั้ง รวมถึงเรื่องที่การโยกย้ายเงินผิดกฎหมายของสถาบันการเงิน จากการเปิดเผยของ เครือข่ายสืบสวนอาชญากรรมทางการเงินสหรัฐ หรือ FinCen ซึ่งมีชื่อธนาคารของไทยรวมอยู่ด้วย และข่าวการคว่ำบาตรอาหร่านของสหรัฐฯ ซึ่งอาจมีผลต่อราคาน้ำมัน

ขณะเดียวกันสัปดาห์นี้จะเป็นสัปดาห์สุดท้ายก่อนจะเข้าสู่ช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และจะมีการดีเบตครั้งแรก ของผู้ชิงตำแหน่งในช่วงวันที่ 29 ก.ย.  ณ เวลานี้ คะแนนนิยมของโดนัลด์ ทรัมป์มีการเพิ่มขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา  ทาง KTBST SEC คาดว่า หุ้นเทคโนโลยีจะยังคงเป็นตัวแปรสำคัญในการชี้นำทิศทางตลาด  แต่มีประเด็นเรื่องเจรจาการค้าที่ต้องติดตาม เนื่องจากทางจีนได้มีการแถลงแนวทางในการจำกัดการทำธุรกรรมของบริษัทต่างชาติที่เข้ามาทำลายระบบเศรษฐกิจและการแข่งขันในจีน ตลอดจนบริษัทต่างชาติที่มีการละเมิดกฏหมายของจีน ทำให้สถานการณ์การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนนั้นเข้าสู่ภาวะตึงเครียดและมีผลเชิงลบต่อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอีกครั้ง

ด้านปัจจัยในประเทศ หลังจากการชุมนุมล่าสุดผ่านไปอย่างสงบ แต่ยังอาจมีความอึมครึมทางเมืองอยู่ และเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญที่ต้องติดตาม ดังนั้นการลงทุนในตลาดหุ้นไทย KTBST SEC แนะนำ ถือเงินสดเพื่อดูสถานการณ์รอจังหวะเข้าซื้อ ประเมินว่า SET Index อาจปรับตัวลงแตะ 1,250 จุด ส่วนการลงทุนในต่างประเทศ ยังแนะนำตลาดหุ้นสหรัฐฯ  ในกลุ่มที่ได้รับประโยชน์ด้านการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และได้ประโยชน์จากการเลือกตั้งประธานาธิบดี รวมถึงกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีระดับราคาน่าสนใจ เช่น กลุ่มเทคโนโลยี และ กลุ่ม e-Commerce เหมือนสัปดาห์ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ปัจจุบันการทำธุรกรรมออนไลน์เพื่อซื้อสินค้าและชำระเงิน มีแนวโน้มการเติบโตสูงทั่วโลก จากเทคโนโลยีที่ทำให้พฤตกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป ล่าสุด บลจ.วี กำลังอยู่ระหว่างการเปิดขาย IPO กองทุนเปิด วี ออนไลน์ ช้อปปิ้ง แอนด์ เพย์เม้นท์  (WE-OSHOP) ระหว่างวันที่ 21-25  ก.ย. 2563 กองทุนเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มค้าปลีกออนไลน์ (e-Commerce) และหุ้นกลุ่มบริษัทที่ให้บริการเกี่ยวข้องกับการชำระเงินอิเล็คทรอนิค (Electronic Payment)  ทั่วโลก บลจ.วี มองว่า เป็นจังหวะลงทุนเพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว จากหุ้นค้าปลีกออนไลน์และธุรกิจที่ให้บริการชำระเงินทั่วโลก   สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมพร้อมรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วี จำกัด (“บลจ.วี”) โทรศัพท์ 02-648-1111  ** ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน ติดตามข่าวสารการลงทุนได้จาก ”มุมความรู้”  https://www.ktbst.co.th/th/knowledge.php

 

โดยคุณชาตรี  โรจนอาภา รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ 

บล. เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (KTBST SEC)

www.mitihoon.com