“กลุ่มนิคมฯ” โบรกให้น้ำหนักลงทุนเท่ากับตลาด

337

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า จากบทวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า กลุ่มนิคมอุตสาหกรรมโดยเฉพาะย่าน EEC ยังคงเป็นยุทธศาสตร์การลงทุน มียอด BOI ช่วง ครึ่งแรกของปี 63 ที่ 8.5 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 54% ของ BOI ทั้งประเทศ เชื่อยุคหลังวิกฤต Covid-19 อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์, หุ่นยนต์, โลจิสติกส์, และการแพทย์เติบโตสูง และพื้นที่อุตสาหกรรม EEC จะได้รับประโยชน์จาก 5G เป็นลำดับแรกของอาเซียน เชื่อการลงทุนในกิจการที่ต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ทั้งฐานผลิตที่เคลื่อนย้ายออกจากจีนน่าจะเลือกไทยให้เป็นเป้าหมาย

คาดวีซ่านักท่องเที่ยว Special Tourist VISA และมาตรการช่วยเหลือนักลงทุนเข้าประเทศจะชัดเจนเร็วๆนี้ กระตุ้น Presale ฟื้นตัว ระยะสั้นกำไรกลุ่มนิคมฯ ไตรมาส 3/63 (มิ.ย.-ก.ย. 63) เผชิญแรงกดดันจากการควบคุมไม่ให้ไทยได้รับเชื้อระลอกสอง อย่างไรก็ดี FPT ได้รับผลกระทบจำกัด เพราะรายได้มาจากกำลังซื้อในประเทศ ทั้งยังขายโอนทรัพย์เข้า REIT ขณะที่ AMATA มี Backlog สูงจึงปลอดภัย ส่วน WHA รอฟื้นตัว ไตรมาส 4/63 จากแผนขายทรัพย์เข้า REIT

น้ำหนักการลงทุนเท่าตลาด สำหรับกลุ่มนิคมฯ เลือก FPT(FV@B15.4 บาท) เป็น Top Pick คาดกำไร All Time High และชอบ AMATA (FV@B35.70 บาท) มีความเสี่ยงต่ำจาก Backlog ระดับสูง

www.mitihoon.com