BANPU อุปสงค์ที่แข็งแกร่งจากจีนดึงให้ราคาถ่านหินสูงขึ้น

343

ทางหลักทรัพย์กรุงศรีได้ติดตามการเพิ่มขึ้นของราคาถ่านหินในจีนที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้ผู้ซื้อหุ้นนำเข้าถ่านหิน thermal coal เพิ่ม ทั้งนี้จีนได้คุมการนำเข้าตั้งแต่ปี 2018 โดยการกำหนดโควต้า แต่การนำเข้าถ่านหิน Thermal coal เพิ่มขึ้น 4% yoy เป็น 132 ล้านตันใน 1H20 แม้มีการlockdown ในเดือนก.พและมี.ค. อีกทั้งมาตรการคุมการนำเข้ายังทำให้จีนต้องใช้เวลานานขึ้นในการนำถ่านหินออกจากท่าเรือจากเดิมที่ 15-30 วันเป็น 90 วัน คณะกรรมการพัฒนาการและการปฏิรูปแห่งชาติ (NDRC) ได้จัดประชุมเกี่ยวกับอุปทานถ่านหินในช่วงฤดูหนาว  ถึงแม้ยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ตลาดก็เก็งว่าอาจจะมีการผ่อนคลายเกณฑ์การนำเข้าถ่านหิน ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อสามารถนำเข้าถ่านหิน thermal coal ที่ขนส่งทางทะเลเพิ่มขึ้น และเป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาถ่านหินสูงขึ้น

 

ราคา NEX เพิ่มเป็น US$60/t แปลว่า ASP ใน 4Q20 และ 21 มี upside โดยปี 2020 BANPU กำหนดราคาขายถ่านหินไว้ 65% อีก 20% ผูกกับดัชนี NEX และมีส่วนไม่ได้ขายอีก 15% การดัชนี NEX ขยับเพิ่มขึ้นเป็น US$60/t จะไม่ส่งผลกระทบกับ ASP ใน 3Q มากนัก แต่จะมี upside ใน 4Q20 และปี 2021 อีก ปกติ BANPU จะทำสัญญาขายถ่านหินในไตรมาส 4 ของปีก่อนหน้า BANPU ตั้งเป้าจะเพิ่มการผลิตที่ ITM เป็น 5.1 ล้านตันใน 3Q และตั้งเป้าการผลิตที่ CEY ไว้ที่ 3.0 ล้านตัน คาดว่าปริมาณยอดขายที่เพิ่มขึ้นจาก ITM ช่วยหนุนผลประกอบการใน 3Q เราคาดว่าดัชนี NEX ที่เพิ่มขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อ ASP มากนักใน 3Q BANPU ตั้งเป้าหมายการผลิตถ่านหินไว้ที่ 5.1m ตันสำหรับ ITM ใน 3Q เพิ่มขึ้นจาก 4.4 m ตันใน 2Q เนื่องจากสภาพอากาศที่ดีขึ้นในอินโดนีเซียและ 3.0m ตันสำหรับ CEY เทียบกับ 3.3m ตันใน 2Q ปริมาณการขายที่สูงขึ้นที่ ITM จะสนับสนุนผลประกอบการ 3Q โดยปี 2020 BANPU ตั้งเป้าการผลิตถ่านหินไว้ที่ 22.7m ตันสำหรับ ITM (23.4m ตันในปี 2019) และ 13.3m ตันสำหรับ CEY (9.4m ตันในปี 2019)

 

โอกาสเก็งกำไร เพราะราคาหุ้นยังไม่ได้สะท้อนถึงดัชนี NEX ที่ขยับสูงขึ้นมา คาดว่าราคาถ่านหินจะเพิ่มขึ้นอีกสามเดือนจากอุปทานที่ตึงตัวในจีน และอุปสงค์ตามฤดูกาลในหน้าหนาว หากจีนผ่อนคลายเกณฑ์นำเข้าถ่านหิน ผู้ซื้อในประเทศก็จะนำเข้าถ่านหินเพิ่มขึ้น เป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาถ่านหินขยับสูงขึ้น BANPU วางแผนที่จะลดต้นทุนโดยรวมลง US$8/t จากปี 2019 ผ่านการเพิ่มประสิทธิภาพการทำเหมือง ลดต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและต้นทุน overhead ลง ซึ่งหมายความว่าต้นทุนรวมอยู่ที่ US$50/t (US$58/t ในปี 2019) แผนนี่เป็นความท้าทายเนื่องจากต้นทุนเฉลี่ยของ BANPU อยู่ที่ US$52.5/t ใน1H20 ปริมาณขายถ่านหินของปี 2020 สำหรับ ITM, BANPU ได้ลอคราคาขายไว้แล้ว 65%, อ้างอิง NEX index อีก 20%, และยังไม่ได้ขายอีก 15% โดยดัชนี NEX เพิ่มขึ้นสู่ US$60/t ในสัปดาห์นี้จาก US$49/t ในก.ค.และส.ค. ซึ่งสะท้อน upside ของ ASP ใน 4Q20 และ 2021 โดย BANPU มักติดต่อขายถ่านหินสำหรับปีหน้าในไตรมาสสี่ของปีก่อนหน้า เราคาดว่าดัชนี NEX ที่เพิ่มขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อ ASP มากนักใน 3Q BANPU ตั้งเป้าหมายการผลิตถ่านหินไว้ที่ 5.1m ตันสำหรับ ITM ใน 3Q เพิ่มขึ้นจาก 4.4 m ตันใน 2Q เนื่องจากสภาพอากาศที่ดีขึ้นในอินโดนีเซียและ 3.0m ตันสำหรับ CEY เทียบกับ 3.3m ตันใน 2Q ปริมาณการขายที่สูงขึ้นที่ ITM จะสนับสนุนผลประกอบการ 3Q โดยปี 2020 BANPU ตั้งเป้าการผลิตถ่านหินไว้ที่ 22.7m ตันสำหรับ ITM (23.4m ตันในปี 2019) และ 13.3m ตันสำหรับ CEY (9.4m ตันในปี 2019) เราประเมินว่า ASP ที่เพิ่มขึ้น US$1/ton จะทำให้กำไรสุทธิของ BANPU เพิ่มขึ้น 3% ยังคงคำแนะนำถือ และประเมินราคาเป้าหมาย SoTP ที่ 7.90 บาท คิดเป็น P/BV ปี FY21F ที่ 0.6x 

Disclaimer:  เอกสาร/รายงานฉบับนี้จัดทำขึ้นบนพื้นฐานข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณชน ซึ่งพิจารณาแล้วว่ามีความน่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตาม บมจ.หลักทรัพย์กรุงศรี มิอาจรับรองความถูกต้องและความสมบูรณ์ของข้อมูลดังกล่าวได้ บทความดังกล่าวเป็นเพียงแนวคิดของผู้จัดทำเพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการลงทุน บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงความเห็นหรือประมาณการต่างๆที่ปรากฏในเอกสาร/รายงานฉบับนี้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าดังนั้นนักลงทุนโปรดใช้ดุลพินิจอย่างรอบคอบในการพิจารณาการลงทุน

www.mitihoon.com