บล.เอเซียพลัส มองSETโค้งท้ายพอทำกำไร แนะลงทุนหุ้นไซส์กลาง-เล็ก

456

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส หรือ ASPS ประเมินภาพรวมการลงทุนในช่วงไตรมาส 4/63 ปัจจัยพื้นฐานของตลาดคาด Downside การปรับลด GRP Growth และกำไรบจ. ถึงจุดสิ้นสุด โดยนายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกก.ผอ.สายงานวิจัย กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจเริ่มเห็นค่าเฉลี่ย Consensus คาด GDP ปี63 หดตัว 7.3% เทียบกับ ASPS คาด -8.4% และสำนักวิจัยเริ่มทยอยปรับคาดการณ์ GDP ปี 63 , งบประมาณปี 64 ไม่ล่าช้าเหมือนคาด มาตรการการคลังในช่วงโค้งสุดท้ายปียังมี

ส่วนกำไร บจ. ยังคงคาดการณ์ปี 63 ที่ 6.13 แสนล้านบาท หรือ 56.65 บาท/หุ้น หลังช่วงครึ่งแรกปี 63 กำไรออกมารวมกัน 1.9 แสนล้านบาท ประเมินกำไรไตรมาส 3-4/63 เฉลี่ย 2 แสนล้านบาท/ไตรมาส มีโอกาส เป็นไปได้ ส่วนปี 64 คาด 7.85 แสนล้านบาท หรือ 72.51 บาท/หุ้น ขยายตัว 25% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน

ทั้งนี้ แม้ปัจจัยพื้นฐานของตลาดจะมีความนิ่ง แต่ประเมินมี 5 ปัจจัยกดดัน ได้แก่ จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกยังสูง และมีล็อกดาวน์ในบางประเทศ, ปัจจัยการเลือกตั้งในสหรัฐฯ 3พ.ย., การเมืองไทยที่ต้องติดตาม, การปรับพอร์ตเพื่อเตรียมซื้อ SCGP ก่อนเข้าตลาดของสถาบันฯ มีโอกาสเขย่าและกดดันหุ้นขนาดใหญ่ระยะสั้น และการปรับเกณฑ์ Celling & Floor และ Short Sell กลับมาตามปกติ

อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นยังมีปัจจัยหนุน Liquiduty ที่ล้นระบบ ( เงินฝากที่สูงกว่า market Cap ตลาด ) และรอจ่อเข้าตลาดหุ้น อาจจะชะลอไปอีกสักระยะ หากปัจจัยกดดัน 5 ปัจจัยดังกล่าว เริ่มมีความผ่อนคลายลง เชื่อว่า Flow จะไหลเข้าตลาดหุ้น

หากมองในมุม Valuation ที่เริ่มนิ่ง ด้วยโมเมนตัมของการปรับลด EPS ปี63 และปี 64 ของ Consensus ลดน้อยลง บวกกับตลาดหุ้นตัวได้ดี หลังกำไรบริษัทจดทะเบียนผ่านพ้นจุดต่ำสุด ดังนั้น Upside เริ่มเปิดกว้างขึ้น ตามเป้าดัชนีปี 64 ที่ประเมินไว้ที่ 1,450 จุด ถือเป็นจังหวะในการสะสมหุ้นพื้นฐานดี ราคาถูก ช่วงตลาดปรับฐานลงมา

สำหรับหุ้น ที่น่าลงทุนในจังหวะนี้ ได้แก่ ASK, DOHOME, INSET, MTC, NOBLE และ STGT ส่วนหุ้นที่ราคาเกินเกินมูลค่าพื้นฐาน ต้องระมัดระวังการซื้อขาย เช่น MINT และ LPN

www.mitihoon.com