CTW ผู้นำสายไฟ-งบQ4หรู หุ้นP/BVถูก-ต่ำบุ๊ก11บ. (03/02/64)

961

มิติหุ้น – CTW ส่งซิกผลงานไตรมาส 4/63 โดดเด่น รับอานิสงส์ราคาทองแดงพุ่งหนุนสต็อกสินค้าทำกำไรเพิ่ม กูรูชี้ P/BV ยังถูกติดดิน 0.66 เท่า ราคาหุ้นต่ำบุ๊ก 11 บาท แนะนำซื้อ ฟากบริษัทลุยแผนโตต่อ เดินหน้ารุกผู้นำสายฟ้าทั้งในปท.และอาเซียน

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า  บมจ.จรุงไทยไวร์แอนด์เคเบิ้ล หรือ CTW  ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายสายไฟฟ้าอลูมิเนียม สายไฟฟ้าทองแดง สายไฟฟ้าแรงดันสูง สายโทรศัพท์ สายเคเบิ้ล สายเคเบิ้ลใยแก้วนำแสง ลวดอาบน้ำยา และไม่อาบน้ำยา รวมทั้งรับจ้างผลิต แลกเปลี่ยน แปรรูปสินค้าดังกล่าว โดยแหล่งข่าวนักวิเคราะห์ ประเมินแนวโน้มธุรกิจไตรมาส 4/63 มีโอกาสเติบโตโดดเด่น จากผลงานงวด 9 เดือน มีกำไรสุทธิ 213.47 ล้านบาท และรายได้รวม 3,297 ล้านบาท เทียบทั้งปี 63 ที่มีกำไรสุทธิ 77.24 ล้านบาท และรายได้รวม 6,057 ล้านบาท เป็นผลจากปัจจัยบวกราคาทองแดงปรับตัวดีขึ้น ทำให้บริษัทมีกำไรสต็อกสินค้า ซึ่งแม้ในช่วงโควิดระบาดในส่วนงานโครงการจะชะลอลงบ้างแต่บริษัทยังสามารถทำกำไรได้ดีต่อเนื่อง

หุ้นต่ำบุ๊ก –แนะนำซื้อ
ขณะที่ภาพรวมธุรกิจสายไฟฟ้าในประเทศ และในภูมิภาคอาเซียนยังมีความต้องการใช้งานเป็นปริมาณสูง และมีเทคโนโลยี 5G เข้ามา เป็นส่วนสนับสนุนให้โอเปอเรเตอร์มีการลงทุนโครงข่ายมากขึ้น คาดบริษัทได้รับอานิสงส์ ส่วนราคาหุ้น CTW ประเมินราคายังถูก มี P/BV เพียง 0.66 เท่า และต่ำบุ๊กแวลู 11.07 บาท ดังนั้นแนะนำ “ซื้อ”

รุกตลาดทั้งใน-นอกปท.
แหล่งข่าววงการอุตสาหกรรม เผยว่า ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ในกลุ่มการผลิตของบริษัทฯ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ลวดอาบน้ำยาและไม่อาบน้ำยา ซึ่งจำหน่ายให้แก่ลูกค้าภาคเอกชนและส่งออกต่างประเทศ ส่วนสายไฟฟ้า สายเคเบิ้ล และสายเคเบิ้ลใยแก้วนาแสง ส่วนใหญ่จำหน่ายให้แก่หน่วยงานภาครัฐวิสาหกิจ ผู้ดูแลกิจการสาธารณูปโภคเป็นหลัก เช่น กฟผ. กฟภ. และ กฟน. รวมถึงหน่วยงานรัฐวิสาหกิจเช่น ทีโอที ในส่วนภาคเอกชน จำหน่ายให้แก่ผู้รับเหมา และลูกค้าทั่วไป เป็นต้น

ด้านช่องทางการจำหน่าย บริษัทยังคงมีนโยบายเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดโดยการขยายตลาดให้ครอบคลุมทั่วประเทศ นอกจากนี้บริษัทได้สร้างโอกาสในการขาย ด้วยการเข้าร่วมประมูลงานในโครงการขนาดใหญ่ (Mega Project) ต่างๆ มากขึ้น เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ โครงการโรงผลิตไฟฟ้า โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (High Speed Tran) และโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ EEC เป็นต้น ในส่วนของบริษัทย่อย SPEWC บริษัทได้พยายามหาช่องทางใหม่ๆ เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ทั้งผลิตภัณฑ์เดิมและผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อออกจาหน่ายยังประเทศเพื่อนบ้าน และต่างประเทศมากขึ้น โดยปี 62 ได้มีการหาลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นในตลาดเดิมคือ เวียดนาม และอินเดีย

www.mitihoon.com