หุ้น TTA: ได้เวลาพระรอง (12/03/64)

644

ทางหลักทรัพย์กรุงศรีเริ่มการดูแลหุ้น TTA อีกครั้ง พร้อมคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 11.2 บาท เราคาดว่า TTA จะพลิกมามีกำไร 928 ลบ. ในปี FY21F ราคาเป้าหมายของเราเทียบเท่า 22x FY21F PE หรือเทียบเท่า 1.2x FY21F PBV หนุนโดย (1) Demand ที่คาดว่าจะเติบโตมากกว่าซัพพลายช่วยให้ BDI เพิ่มขึ้น, และ (2) การฟื้นตัวของธุรกิจนอกชายฝั่งหลังจากบริษัทออกจากธุรกิจเรือขุดเจาะน้ำมัน

จากข้อมูลของ Clarksons เราคาดว่าการค้าทองเรือเทกองแห้งทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 5.0% ใน FY21F โดยได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของการค้า แร่เหล็ก เมล็ดธัญพืช และสินค้า minor bulk โดยการค้าแร่เหล็กคาดว่าจะเติบโตเกือบ 5% สาเหตุหลักมาจากประเทศต่างๆทั่วโลกยังคงดำเนินมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยจำนวนเม็ดเงินจากจีนจำนวน 667 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (สูงกว่าระดับ 578 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ดอลล่าห์สหรัฐฯ 15.8% ในช่วงวิกฤตการเงินครั้งใหญ่ปี 2008) จะช่วยให้อุปสงค์ฟื้นตัวสู่ระดับที่ดี และคาดว่า minor bulk จะเติบโตถึง 7.3% โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการถั่วเหลืองที่สูงขึ้นจากจีนเพื่อรักษาความมั่งคงทั้งอาหารและอาหารสัตว์ ซึ่ง TTA ให้ความสำคัญกับการทำตลาดในกลุ่มนี้

ขณะที่การเติบโตของกองเรือสุทธิ 1H20 อยู่ในระดับสูงที่ 4.4% (ปรับเป็นต่อปี) เนื่องจากการส่งมอบใหม่ในช่วงต้นปี อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบและเนื่องจากการปิดตัวลงโรงแยกชิ้นส่วนเรือจากผลกระทบของ COVID-19 แต่เราคาดว่าอุปทานจะเติบโตช้าลงใน 2H20 และในปี 2021 เนื่องจากการส่งมอบเรือสร้างใหม่มีน้อยลง และโรงแยกชิ้นส่วนเรือได้กลับมาดำเนินการอีกครั้ง ขณะที่ยอดสั่งต่อเรือเทกองแห้งอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบหลายทศวรรษที่ 6.5% ของกองเรือทั้งหมดและคาดว่าจะลดลงอีก เราจึงคาดว่าการเติบโตของ Supply ปี FY21F จะอยู่ที่ 1.4% เท่านั้น

ส่วนการเพิ่มขึ้นของดัชนีค่าระวางเรือ (BDI) สอดคล้องกับส่วนต่างระหว่างการเติบโตของ Demand ที่สูงกว่าการเติบโตของ Supply โดยความต้องการจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของโลกในปีหน้า และการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นของจีน ขณะที่ปริมาณเรือเทกองมีแนวโน้มชะลอตัวลงตามคำสั่งต่อเรือใหม่ที่ลดลง ทำให้เราจึงมีมุมมองเชิงบวกจาก Demand ฟื้นตัวสูงกว่า Supply ในปี FY21F และจะคงแนวโน้มต่อไปในอีก 2-3 ปีข้างหน้า

นอกจากนี้ ธุรกิจบริการนอกชายฝั่งในตอนนี้ออกจากธุรกิจเรือขุดเจาะน้ำมัน ซึ่งผันผวนตามราคาน้ำมันและตอนนี้เน้นไปที่ธุรกิจหลักคือ ตรวจสอบ, ซ่อมแซมและซ่อมบำรุง (IRM) ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีความมั่นคงกว่า อัตราการใช้เรือฟื้นตัวจาก 79% ใน 2019 สู่  85% ใน 2020 จากแรงหนุนของคำสั่งซื้อ (Order book) ที่แข็งแกร่ง ดังนั้นเราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นปี FY21F ของธุรกิจบริการนอกชายฝั่งจะฟื้นตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญสู่ระดับสูงกว่า 20% เทียบกับ -1% ในปี FY20 คล้ายกับในปี 2016-2017

โดย บมจ.หลักทรัพย์กรุงศรี

www.mitihoon.com