วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน

51

 

เวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับลด หลังตลาดกังวลการแพร่ระบาดโควิด-19 กระทบความต้องการใช้น้ำมัน

– เวสต์เท็กซัสและเบรนท์ ถูกกดดันจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าทั่วโลก โดยญี่ปุ่นได้ประกาศภาวะฉุกเฉินในหลายจังหวัดครอบคลุมกว่า 70% ของประชาการ ขณะที่จีนประกาศมาตรการจำกัดการเดินทางและยกเลิกเที่ยวบิน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ส่วนสหรัฐฯ มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในรัฐที่มีการฉีดวัคซีนอยู่ในระดับต่ำ

– สกุลเงินดอลล่าร์แข็งค่าขึ้น หลังตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาด ซึ่งเป็นปัจจัยลบต่อตลาดน้ำมัน เพราะทำให้สัญญาน้ำมันดิบมีราคาแพงขึ้น และมีความน่าสนใจลงทุนน้อยลง  สำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น

-/+ Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติสหรัฐฯ ณ สัปดาห์สิ้นสุด  6 ส.ค. 64 เพิ่มขึ้น 2 แท่น สู่ระดับ 387 แท่น อย่างไรก็ตามอัตราการเพิ่มขึ้นของจำนวนแท่นขุดเจาะเริ่มลดลง เนื่องจากผู้ผลิตมีงบประมาณลงทุนอย่างจำกัด โดยงบประมาณลงทุนปี 64 เพิ่มขึ้นเพียง  1% เมื่อเทียบกับปี 63

ราคาน้ำมันเบนซิน-ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ แม้ว่าโรงกลั่นจีน  Zhejiang Petroleum & Chemical หยุดดำเนินการหอกลั่นน้ำมันดิบ ขนาด 200,000 บาร์เรลต่อวัน หลังไม่ได้รับโควต้านำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มเติม

ราคาน้ำมันดีเซล-ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ ณ สัปดาห์สิ้นสุด 5 ส.ค. 64 เพิ่มขึ้น 2.1% แตะระดับ 11.05 ล้านบาร์เรล

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ. ไทยออยล์