SFLEX มาตามนัด! โชว์รายได้ปี 64 พุ่งแตะ1,727 ลบ.ทำนิวไฮ บอร์ดใจดีสั่งจ่ายปันผล 0.045 บ./หุ้น พร้อมจ่ายพฤษภาคมนี้

177

 

มิติหุ้น-บมจ.สตาร์เฟล็กซ์ (SFLEX) โตต่อเนื่อง! ปี 64 กวาดรายได้กว่า 1,727 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% ขณะที่กำไรแตะ 149 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% ท่ามกลางความผันผวนของต้นทุนวัตถุดิบ บอร์ดใจดีเคาะจ่ายปันผล 0.045 บาท/หุ้น ฟากซีอีโอ ตั้งเป้ารายได้ปี 65 ทะยานแตะ 1,800 ล้านบาท รุกผลิตภัณฑ์อาหาร (Food) และการแพทย์ (Medical) เน้นงานมาร์จิ้นสูง มุ่งสร้างความยั่งยืนของอัตรากำไรขั้นต้นให้สามารถเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

ดร. สมโภชน์ วัลยะเสวี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) (SFLEX) ผู้ผลิต และจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนชั้นนำในประเทศ เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2564 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 149.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิเท่ากับ 142.8 ล้านบาท

ขณะที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,727.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 312.3 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 22.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนเท่ากับ 1,415.0 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการขายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน (Flexible Packaging) จำนวน 1,677 ล้านบาท

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลงวดปี 2564 ให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.045 บาท  รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 36.9 ล้านบาท โดยกำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่จะมีชื่อปรากฎ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 19 เมษายน 2565 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผลในวันที่ 6 พฤษภาคม 2565

“ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ เติบโตต่อเนื่องจากปีก่อนทั้งในส่วนของรายได้และกำไร แม้ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปัญหาในเชิงซัพพลายของน้ำมันในตลาดโลก จนส่งผลทำให้ราคาวัตถุดิบมีความผันผวน และปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้เป็นอย่างมาก

แต่ทั้งนี้ในปี 2565    บริษัทฯ มีนโยบายจัดหาวัตถุดิบด้วยต้นทุนคงที่ในระยะยาวเพิ่มขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงกับการผันผวนของราคาในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นเข้ามาเพื่อทดแทนวัตถุดิบที่มีราคาสูง ประกอบกับแผนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปีนี้  มั่นใจว่าจะช่วยสนับสนุนให้บริษัทฯ มีความสามารถในการสร้างอัตรากำไรได้อย่างที่คาดการณ์ไว้”

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SFLEX กล่าวอีกว่าในปี 2565 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้โตแบบ Organic growth จากธุรกิจหลักเพิ่มขึ้นจากปีก่อนอยู่ที่ประมาณ 1,760 – 1,800 ล้านบาท จากการขยายกำลังการผลิตของโรงงานแห่งใหม่  โดยคาดว่าจะมีกำลังการผลิตจะค่อยๆเพิ่มขึ้นจนถึง 265 ล้านเมตรต่อปี จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิต 180 ล้านเมตรต่อปี

พร้อมกันนี้ยังได้ขยายตลาดเชิงรุกไปยังผลิตภัณฑ์อาหาร (Food) และผลิตภัณท์ทางการแพทย์ (Medical) ให้มากยิ่งขึ้น ประกอบกับการมุ่งเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพ เน้นงานกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ให้มาร์จิ้นสูง และช่วยผลักดันการเติบโตได้เพิ่มขึ้นในอนาคต เพื่อมุ่งสร้างความยั่งยืนของอัตรากำไรขั้นต้นให้มั่นคงในระยะยาว

🚩🚩ห้อง Official Line ห้องไลน์ฟรี มิติหุ้น ทันทุกสถานการณ์การลงทุน หุ้นเด่น หุ้นเด็ดตลอดวัน กับห้องไลน์ @mitihoonwealth ห้องไลน์ที่นักลงทุนเข้าเป็นสมาชิกฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพียงคลิกลิงค์นี้ก็เข้าได้เลย และสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้