คัดหุ้น Defensive Stock ความเสี่ยงต่ำ-ปันผลงาม

1687

 

มิติหุ้น-ช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา “ตลาดหุ้นทั่วโลกระส่ำ” หลังต้องเผชิญวิกฤติธนาคาร 3 แห่งในสหรัฐฯ ถูกปิดตัวลงจากปัญหาทางด้านสภาพคล่อง ซึ่งเกิดจากการสะสมของปัจจัยกดดันต่างๆ ทั้งการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวด, การถอดถอนสภาพคล่องของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) , ภาวะ Earning contraction และภาวะขาลงของสินทรัพย์ Digital และ cryptocurrency

โดยปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น เป็นปัญหาเรื่องสภาพคล่องซึ่งค่อยข้างมีความอ่อนไหวและกระทบต่อความเชื่อมั่นด้านการลงทุน ทำให้นักลงทุนเกิดความไม่เชื่อมั่นจึง “ทะยอยเทขายหุ้นออกมา” นับเป็นแรงกดดันที่อาจทำให้ “ตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงตลาดหุ้นไทยยังคงมีความผันผวน” จนถึงสัปดาห์หน้า (27-31มี.ค.66)

เน้นหุ้นกลุ่ม Defensive Stock

โดยปัจจัยเสี่ยงข้างต้น จะทำให้ตลาดหุ้นไทยยังมีความผันผวนและเป็นขาลง ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนต้องเลือกหุ้นในกลุ่ม Defensive Stock หรือ หุ้นปลอดภัย เพราะมีความทนทานในทุกสภาพตลาด น่าจะเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ในภาวะเช่นนี้ สำหรับปัจจัยสำคัญที่ทำให้หุ้น “กลุ่ม Defensive Stock”  ทนทานต่อทุกสภาพตลาด

เนื่องจากเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแรง ธุรกิจเติบโตสม่ำเสมอ ความเสี่ยงต่ำ และที่สำคัญสามารถจ่ายเงินปันผลได้ค่อนข้างสม่ำเสมอ แต่มีข้อเสีย คือ อาจเป็นหุ้นที่กำไรเติบโตได้เรื่อย ๆ ไม่หวือหวา ดังนั้นเมื่อเป็นหุ้นกลุ่มที่ทนต่อทุกสภาพตลาด จึงเหมาะกับการลงทุนในช่วงที่ตลาดหุ้นกำลังผันผวนเช่นนี้  และเนื่องจากหุ้นกลุ่ม Defensive Stock มีความผันผวนค่อนข้างต่ำ ทำให้การลงทุนมีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำด้วยเช่นกัน

สำหรับการลงทุนหุ้นกลุ่ม Defensive Stock ควรคัดกรองด้วยวิธีการ ดังนี้

  1. มาร์เก็ตแคปมากกว่า 10,000 ล้านบาท
  2. ค่า Beta ต่ำกว่า 1
  3. D/E Ratio ต่ำกว่า 1 เท่า
  4. กำไรสุทธิมากกว่า 0 (ห้ามขาดทุน) ตลอด 5 ปี
  5. ราคาไม่แพง P/E Ratio ต่ำกว่า 15 เท่า
  6. P/BV Ratio ไม่เกิน 1.5 เท่า
  7. จ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ 10 ปีติดต่อกัน

 คัด 8 หุ้นเด่นปลอดภัยเข้าพอร์ต

สำหรับการเลือกหุ้นรายตัวที่เข้าเเกณฑ์ กลุ่ม Defensive Stock  เบื้องต้นยกตัวอย่างมา 8 หุ้น ได้แก่ AP BCT QH RATCH SPALI SPC และ STANLY  ดังตาราง>>>>>

ขณะที่ “บล.กสิกร” ก็แนะนำลงทุนหุ้น Defensive เช่นกัน เพื่อช่วยลดความผันผวน/ความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนรวม หรือหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวหนุนให้สามารถ outperform ตลาดได้ ได้แก่ กลุ่มโรงไฟฟ้า, ICT, กลุ่มโรงพยาบาล, กลุ่มค้าปลีก, และหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว

ธีมการลงทุน

1.) หุ้น Defensive ในช่วงที่ตลาดผันผวน คือ 1.1) กลุ่มโรงไฟฟ้า แนะนำ  BGRIM คาดกำไร Q1/66 เติบโตต่อเนื่อง ได้กระแสบวกจาก Bond Yields ปรับลง และเงินบาทแข็งค่า 1.2) กลุ่มโรงพยาบาล แนะนำ BCH

2.) หุ้นที่ได้ปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจโลกยังเติบโต Prob recession ลดลง คือ กลุ่มเรือเทกอง

3.) หุ้นที่ราคาอยู่ในโซนล่าง และมีปัจจัยบวกจากกระแสการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น กลุ่มค้าปลีก แนะนำ CPALL

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon