TOP วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน

152

ราคาน้ำมันดิบพุ่งสูง หลังกลุ่มโอเปกพลัสประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบ

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา

+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มกว่า 6% จากความกังวลอุปทานตึงตัว หลังกลุ่ม OPEC+ ได้มีมติในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงกว่า 1.66 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในการประชุมวันที่ 2 เม.ย. จากเดิมซึ่งมีการลดกำลังการผลิตก่อนหน้าอยู่แล้ว ทำให้กำลังการผลิตน้ำมันดิบจากกลุ่ม OPEC+ จะลดลงทั้งหมด 3.66 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 3.7% ของอุปสงค์ทั้งโลก

+/- นักวิเคราะห์ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ณ สิ้นปี 2566 สูงขึ้น โดยมองว่าท่าทีของ กลุ่ม OPEC+ นั้นมีปัจจัยมาจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลงแตะระดับ 70 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ในเดือนที่ผ่านมา ซึ่งต่ำสุดในรอบ 15 เดือน ทำให้มีการลดกำลังการผลิตเพื่อกระตุ้นราคาน้ำมันให้เพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์มองว่า สิ่งนี้อาจกระตุ้นให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีกและเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้เกิดภาวะเศรษฐกิจโลกถอถอย

Institute for Supply Management (ISM) ประกาศตัวเลข PMI ภาคการผลิตในเดือนมี.ค. ปรับลงสู่ระดับ 46.3 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 3 ปี แสดงถึงกิจกรรมการผลิตที่ชะลอตัวลง  โดยนักวิเคราะห์มองว่าตัวเลขอาจลดลงอีกจากต้นทุนการกู้ยืมสูงขึ้นและความต้องการสินค้าลดลง

ราคาน้ำมันเบนซิน – ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังการนำเข้าน้ำมันเบนซินจากอินโดนีเซียมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากเหตุระเบิดที่โรงกลั่น Pertamina ทางตะวันตกของประเทศ

ราคาน้ำมันดีเซล – ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานในภูมิภาคมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากการส่งออกของน้ำมันดีเซลจากอินเดีย และตะวันออกกลาง อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดีเซลยังได้รับแรงหนุนจากการส่งออกจากจีนที่มีแนวโน้มลดลงในเดือนเม.ย. จากการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นหลายแห่งในประเทศ

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon