นลท.เข็ดขยาด หุ้นกู้ไซส์เล็กตัวแสบ!

1453

 

กระแสหุ้นกู้กลุ่มเสี่ยงเริ่มกลับมาเขย่าตลาดทุนอีกครั้ง เมื่อล่าสุด JKN แจ้ง ตลท.เมื่อวันที่ 31 ส.ค.66 ว่าบริษัทมีหุ้นกู้รุ่นที่ JKN239A ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 1ก.ย.66 ที่ผ่านมา ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยรวม 609,981,369.86 ลบ. แต่บริษัทสามารถชำระเงินต้นและดอกเบี้ยได้บางส่วนรวม 158,031,369.86 ลบ.เท่านั้น ซึ่งหมายความว่าไม่สามารถจ่ายได้ครบตามที่กำหนดไว้ จึงถือว่าหุ้นกู้ชุดนี้ JKN239A เกิด DEFAULT หรือผิดนัดชำระหนี้แล้ว ซึ่งหุ้นกู้ชุดดังกล่าวเป็นหุ้นกู้ที่ไม่มีเรตติ้ง และให้ดอกเบี้ย 6.6% ต่อปี และเสนอขายแก่นักลงทุนไฮเน็ตเวิร์ค High Net Worth และยังมีโอกาสลุกลามไปยังหุ้นกู้ที่เหลือจำนวน 7 รุ่นด้วย

 

จึงทำให้ตลาดหุ้นกู้โดยเฉพาะหุ้นกู้ที่ไม่มีเรตติ้ง ไปจนถึงหุ้นกู้ที่อยู่ในระดับเครดิตเรทติ้งปริ่มๆ Investment grade หรือ BBB- เกิดปัญหาขึ้นมาว่าเสี่ยงที่จะขายหุ้นกู้ไม่หมด ซึ่งไม่ได้จำกัดวงเฉพาะกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างเดียวที่ประสบปัญหามาก่อนหน้านี้คือภาวะการโรลโอเวอร์หุ้นกู้ไม่ได้ จนต้องเกิดภาวะขายตึกกันออกมาเป็นต้น

 

จับตาหุ้นกู้เสี่ยงRolloverไม่ได้

 

“ก่อนหน้านี้เรากังวลตลาดหุ้นกู้ภาคอสังหาริมทรัพย์เท่านั้นที่เกิดภาวะ Rollover หุ้นกู้ไม่ได้ ไม่มีเงินทำโครงการต่อ จนต้องขายตึกกัน แต่ตอนนี้เริ่มขยายวงออกมานอกธุรกิจนอกเหนือจากภาคอสังหาริมทรัพย์ JKN เป็นสื่อ จึงส่งผลให้เกิดความกังวลในตลาดหุ้นกู้ที่ถึงเวลาจะต้อง Rollover จากนี้ไปจนถึงปลายปีนี้มูลค่ารวมหลักหมื่นล้านบาท จากหลายๆรายรวมกัน จึงเป็นสิ่งน่าจะต้องจับตาดูโดยเฉพาะบริษัทที่ไม่สามารถกู้เงินจากแบงก์ได้ หรือกลุ่มที่มีสินทรัพย์ที่นำไปค้ำไม่เยอะพอ..ก็จะเริ่มน่ากังวล” นายสุโชติ ถิรวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าว

 

ซึ่งประเด็นการ Rollover หุ้นกู้ไม่ได้ ก็เกิดกับ JKN เช่นกัน ที่ระดมทุนโดยการออกหุ้นกู้ล็อตใหม่ไม่ได้ตามจำนวนที่ต้องการเพื่อนำมา Rollover หุ้นกู้ชุดเดิมดังกล่าวนั่นเอง…. ส่วนหุ้นกู้ที่มีเริ่มส่งสัญญาณเสี่ยงไม่ใช่มีเพียง JKN เท่านั้น ทุกคนคงจำกันได้คือ ALL ก็เปิดภาวะนี้เช่นกัน และที่สร้างความตื่นตระหนกที่สุดคือ STARK ที่จัดอยู่ในกลุ่มที่มีความน่าเชื่อถือในแง่การถูกจัดให้อยู่ใน SET100 และมีอันดับเครดิตเรทติ้ง BBB+ ซึ่งเป็นอันดับที่ดีมากๆแต่สุดท้ายก็ยังเกิดผิดนัดชำระหนี้เกือบหมื่นลบ.สร้างความเสียหายให้กับนักลงทุน4-5พันราย

 

หุ้นกู้ไฮยิลด์ หรือไม่มีเรทติ้งเริ่มเสี่ยง!

 

อย่างไรก็ตามจากนี้ไปนักลงทุนจะต้องทำการบ้านมากขึ้นในหุ้นกู้ประเภท High Yield Bond หรือหุ้นกู้ที่ไม่มีเรทติ้ง เพราะต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาหลายบริษัทก็ยังไม่ฟื้นจากผลกระทบจากโควิด-19อย่างจริงจัง ดังนั้นสิ่งที่ควรดูคือ จะต้องเป็นบริษัทที่มีงบการเงินแข็งแรง มีหนี้สินน้อย ความสามารถในการชำระหนี้ การชำระดอกเบี้ย โดยเฉพาะความสามารถการชำระดอกเบี้ยควรมากกว่า 1 เท่า หรือแม้แต่หุ้นกู้ในกลุ่มนี้ที่มีหลักประกันก็เช่นกันควรเข้าไปตรวจดูคุณภาพทรัพย์สินที่นำมาค้ำด้วย

 

แนะนักลงทุนจับตาดูหุ้นกู้ที่เสนอขาย High Yield Bond หรือหุ้นกู้ที่ไม่มีเรทติ้งควรดูงบการเงินที่แข็งแรง มีหนี้สินน้อย ดูที่ความสามารถในการชำระหนี้ การชำระดอกเบี้ย และการชำระภาระผูกพันที่จะต้องเปิดเผยข้อมูลอยู่แล้ว โดยเฉพาะความสามารถการชำระดอกเบี้ยควรมากกว่า 1 เท่า ความหมายคือกำไรที่ทำได้จะสามารถจ่ายดอกเบี้ยได้ หากไม่ได้ก็ควรตั้งคำถามว่าแล้วบริษัทรายดังกล่าวจะหาเงินจากไหนมาจ่าย…

 

…หรือการดูไปถึงผู้บริหาร ซึ่งแม้ว่าจะเป็นผู้ที่มีนามสกุลดังๆ ก็ไม่ได้การันตี ควรจะต้องย้อนไปดูประวัติของผู้บริหารในอดีตด้วยว่ามีประวัติที่ไม่น่าไว้วางใจหรือเปล่า หรือมีประวัติสร้างสตอรี่หุ้นโกรทสต็อกจนหวือหวามากเกินไปหรือเปล่า รวมทั้งมีแผนการลงทุนที่มากจนเกินตัว ซึ่งก็มีความเสี่ยงในการ generate รายได้ หรือกำไร กลับมาคืนภาระดอกเบี้ย คืนหนี้ได้หรือไม่ และจะต้องดูไปถึงหลักทรัพย์ที่นำมาค้ำประกันด้วย เพราะการมีหลักทรัพย์คำประกันไม่ได้การันตีว่าจะมีโอกาสถูกเบี้ยวหนี้ลดลง เพียงแต่ยังสามารถนำหลักทรัพย์ค้ำประกันออกมาขายเพื่อชำระคืนหนี้ได้เท่านั้น” น.ส.อริยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทยกล่าว

 

หุ้นกู้จะครบกำหนด2.7แสนล้านบาทจนถึงสิ้นปี 66

อย่างไรก็ตามหากดูถึงภาพรวมจากนี้จนถึงสิ้นปีจะมีหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนราว 2.17แสนลบ. คาด 90% ที่จะมีการ Rollover ได้สำเร็จไม่น่ากระทบ และยังเชื่อว่าหากนักลงทุนไม่ลงทุนหุ้นกู้ High Yield Bond หรือหุ้นกู้ที่ไม่มีเรทติ้งไม่กระจุกตัวจนเกินไปความเสี่ยงก็จะลดลงเพราะหุ้นกู้ในกลุ่มนี้ที่เกิด DEFAULT ยังเป็นเปอร์เซ็นต์ที่น้อยอยู่นี่คือคำแนะนำจากรองกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย

 

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon