TOP วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน

61

ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ย
ในระดับสูงที่ระดับ 5.25% – 5.50% ต่อไป

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา

– ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25% – 5.50% จากการประชุมเมื่อวันที่ 20 มี.ค. 67 อย่างไรก็ตาม เฟดพร้อมที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยทั้งหมด 3 ครั้งในปี 2567 โดยจะปรับลดครั้งละ 0.25% รวมเป็น 0.75% หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่อง ซึ่งนักวิเคราะห์จาก Lipow Oil Associates ให้ความเห็นว่า การตัดสินใจของเฟดเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้

-/+ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยว่า สหรัฐฯ ส่งออกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน สู่ระดับ 4.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่โรงกลั่นสหรัฐฯ ยังคงผลิตเพิ่มขึ้นหลังจากมีการปิดซ่อมบำรุง ซึ่งส่งผลให้ตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 15 มี.ค. 67 ปรับลดลง 2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 445 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 13,000 บาร์เรล

-/+ นักลงทุนมีแรงเทขายทำกำไร หลังราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นมากจากความกังวลอุปทานน้ำมันตึงตัวจากความไม่สงบในตะวันออกกลาง อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงหนุนจากสถานการณ์ในบริเวณดังกล่าวที่ทวีความรุนแรงขึ้น หลังกองกำลังยูเครนเดินหน้าโจมตีโรงกลั่นน้ำมัน 7 แห่งของรัสเซียในช่วงที่ผ่านมา

ราคาน้ำมันเบนซิน : ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังการส่งออกน้ำมันเบนซินของจีนในเดือน ก.พ. 67 ปรับลดลง 13.1% นอกจากนี้ สต็อกน้ำมันเบนซินของซาอุดีอาระเบียในเดือน ม.ค. 67 ปรับลดลง 3.7% จากเดือนก่อนหน้า

ราคาน้ำมันดีเซล : ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลงสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังสต็อกน้ำมันดีเซลของสิงคโปร์ในเดือน มี.ค. 67 ปรับเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ เกาหลีใต้มีแนวโน้มส่งออกน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon