5 อันดับข่าวเด่นมิติหุ้นภาคบ่าย

335

อันดับที่ 1 SPRC มั่นใจ ราคาน้ำมันหนุนปี 61 โตแกร่ง กูรูแนะซื้อ เป้า 20.60 บ. แถมรับปันผล 6%

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง หรือ SPRC โดยนางสาวสุทธนุช กิตติพงษ์วิเศษ ผู้จัดการนักลงทุนสัมพันธ์ เปิดเผยว่า ปีนี้ SPRC รักษาระดับกำลังการผลิตไว้ที่ 165,000 บาร์เรลต่อวัน และประเมินราคาน้ำมันเฉลี่ยระดับ 55-65 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และค่าการกลั่นในระดับ 6-8 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จากปีก่อนอยู่ในระดับ 7.3 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล คาดยังคงเป็นปัจจัยหนุนผลประกอบการในปีนี้ได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกัน บริษัทเตรียมแผนเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 170,000 บาร์เรลต่อวัน ด้านฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า ยังคงแนะนำซื้อรอเงินปันผล โดยให้ราคาพื้นฐานที่ 20.60 บาท ประเมินอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 6%

อันดับที่ 2 GPI ลั่นผลงานทำนิวไฮทุกไตรมาส หลังพัฒนาศักยภาพ-ปรับขึ้นค่าจัดงานเพิ่ม มั่นใจทั้งปีรายได้โต 20%          

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล  หรือ GPI  โดยแหล่งข่าวจากวงการอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า บริษัทหวังให้ผลประกอบการปีนี้สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ในทุกไตรมาส จากการพัฒนาการจัดงานของบริษัทให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาเช่าพื้นที่ ซึ่งขณะนี้ได้ปรับค่าจัดงานแล้วประมาณ 7% อีกทั้งทางบริษัทยังหาลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ  นอกจากนี้ ธุรกิจสื่อสิ่งพิพม์และรับจ้างพิมพ์ยังมีงานใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน  บริษัทมั่นใจว่ารายได้ภายในปีนี้จะเติบโตระดับ 20% อย่างมีนัยสำคัญ สำหรับแผนขยายธุรกิจในปีนี้ บริษัทได้เตรียมแผนขยายไปยังการจัดงานผลิตภัณฑ์ด้านสุขภัณฑ์และวัสดุก่อสร้าง

อันดับที่ 3 EASTW ปรับโมเดลธุรกิจ  ลุ้นมาร์จิ้นยืนเหนือ30%

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก หรือ EASTW มองผลงานปี 2561 กลับมาฟื้นตัว โดยนายจิรายุทธ รุ่งศรีทอง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ EASTW เปิดเผยว่า ผลประกอบการปี 2560 มีการชะลอตัวลงเล็กน้อยทั้งรายได้และกำไรสุทธิ ซึ่งสาเหตุสำคัญมาจากปริมาณขายน้ำดิบให้กับการประปาส่วนภูมิภาค(กปภ.)ปรับตัวลดลง เนื่องจากน้ำฝนในพื้นที่ภาคตะวันออกมีปริมาณค่อนข้างมากในปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ภาพรวมผลประกอบการปี 2561 มั่นใจว่าจะกลับมาเติบโตอีกครั้ง โดยตั้งเป้าปริมาณขายเติบโต 3-5% จากปีก่อนที่มีปริมาณขายอยู่ที่ 260 ล้านลบ.ม. ขณะที่ปัจจุบันบริษัทอยู่ระกว่างการเจรจากับลูกค้ารายใหม่อีกจำนวน 2-3 ราย ซึ่งจะเป็นกลุ่มลูกค้าที่บริษัทจะนำเข้ามาอยู่ในโมเดลธุรกิจใหม่ สำหรับแผนการลงทุนของบริษัทในปี 2561 นี้ คาดว่าจะมีการใช้เงินลงทุนอีกราว 2 พันล้านบาท ซึ่งจะเป็นการลงทุนในส่วนของการเชื่อมต่อแหล่งเก็บน้ำ 2 แห่ง

อันดับที่ 4 TK ราคาปรับตัวรับข่าวกำไรปี 60 แล้ว โบรกเชื่อปี 61 กำไรฟื้น

มิติหุ้น-บมจ.ฐิติกร หรือ TK ราคาปรับขึ้นช่วงเช้าสูงสุดที่ 16.50 บาท/หุ้น บวก 4.43 % ส่วนราคาล่าสุด(15.22 น.) อยู่ที่ 16 บาท บวก 0.20 บาท หรือ+1.27 % ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 37.7 ล้านบาท ภายหลังรายงานผลการดำเนินงานปี 2560 กำไรสุทธิที่ 466.94 ล้านบาท จากปีก่อน กำไร 429.69 ล้านบาท  ด้านบทวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่าราคาหุ้น TK ลดลงรับข่าวผลประกอบการไตรมาส4/2560 แล้ว โดยบางรายการ อาทิ ค่าใช้จ่ายสำรองฯและค่าใช้จ่ายทางการตลาดและภาษีเป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้นซ้ำใน คงคำแนะนำ “ซื้อ” คงราคาเหมาะสมที่ 19.50 บาท ด้านบทวิเคราะห์ บล.เอเชีย เวลท์ ระบุว่า  จากข้อมูลของสถาบันยานยนต์ ยอดขายรถจักรยานยนต์ในปี 2560 ทั้งหมดอยู่ที่ 1,810,771 คัน ปรับขึ้น 5.2 %  คำแนะนำเป็น “ถือ” จากเดิมแนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมายใหม่ 12 เดือน ข้างหน้าลงเป็น 17 บาท จาก 18.50 บาท

อันดับที่ 5 CBG ร่วงหนัก 14 %  2กูรูแนะลดการลงทุนราคาหุุ้นยังแพง

มิติหุ้น-ความเคลื่อนราคาหุ้น บมจ.คาราบาวกรุ๊ป หรือ CBG ได้ปรับตัวลงแรงช่วงบ่ายลงไปสูงสุดถึง 14.38 % ที่ 59.50 บาท ส่วนราคาปิดล่าสุด(22 ก.พ.61)อยู่ที่ 59.75 บาท ลดลง 9.75 บาท หรือ – 14.03 % ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2,401.76 ล้านบาท ภายหลังพบนักวิเคราะห์ โดยบทวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุว่า คาดทิศทางปี 2561 ของ CBG ยังขาดทุนจากค่าใช้จ่ายทำประชาสัมพันธ์ของ ICUK ทำให้การมีสัดส่วนเพิ่มใน ICUK จาก 51% เป็น 84.3% ด้าน บล.ฟินันเซีย ไซรัส  ระบุว่าผู้บริหารยังกังวลต่อการรุกตลาดจีน แต่ยังตั้งเป้า aggressive โดยจะมีจุดขายที่จีนสิ้นปี 1 ล้านจุด จากปัจจุบันที่ 2-3 แสนจุด  ขณะที่บล.เออีซี ประเมินว่าราคาหุ้นปรับตัวลงจนพลิกกลับมามี Upside  16.2 % จากมูลค่าพื้นฐานปี 2561 ที่ 80.75 บาท (วิธี DCF) อีกทั้งล่าสุดประกาศจ่ายปันผลจากกำไรปี 2560 ที่ 0.50 บาท/หุ้น คิดเป็น อัตราการจ่ายเงินปันผลที่ 0.7 % (XD  7 มี.ค.และจ่ายปันผล 11 พ.ค.นี้) ดังนั้นจึงปรับเพิ่มคำแนะนำจาก “ขาย” เป็น “ซื้อ”