JWD งัด 4 กลยุทธ์ ดันรายได้ปีนี้โต10%  พร้อมเข้าซื้อหุ้นธุรกิจด้านอาหาร 60%  คาดเริ่มดำเนินการได้ เม.ย.นี้

640

มิติหุ้น-นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ หรือ JWD หนึ่งในผู้นำธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ภาคพื้นดิน ทางเรือและทางอากาศอย่างครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยว่า ปี 2561 ได้วางแผนขยายธุรกิจในไทยและต่างประเทศเพื่อยกระดับสู่การเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ โซลูชั่นและซัพพลายเชนระดับอาเซียน ตั้งเป้าสร้างรายได้เติบโตจากปีก่อน 10%

โดยได้วางกลยุทธ์หลัก 4 ส่วนที่จะขับเคลื่อนธุรกิจ ประกอบด้วย 1.Network หรือการขยายเครือข่ายธุรกิจโลจิสติกส์ให้ครบทั้งซัพพลายเชนและครบทุกโหมดการขนส่ง 2.การจัดตั้ง Operation Excellence Team เพื่อพัฒนาบริการโลจิสติกส์ที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทุกบริษัทในเครือทั้งในและต่างประเทศ 3.ระบบ IT โดยจะยกระดับเทคโนโลยีด้านไอทีเพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการโลจิสติกส์ที่สามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าในยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ 4. Human Resource โดยการเสริมทีมงานและการพัฒนาบุคลากรเพื่อพัฒนาองค์กรสู่การเป็น Employer of Choice หรือองค์กรในฝัน ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ ได้บุคลากรที่มีความสามารถและพรสวรรค์เข้ามาร่วมงาน

         ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งงบลงทุนรวมในปี 2561 ประมาณกว่า 2,500 ล้านบาท เพื่อขยายการลงทุนใหม่และขยายธุรกิจที่ดำเนินการในปัจจุบัน ล่าสุด JWD ตกลงเซ็นสัญญาซื้อขายหุ้นกับ CSLF ซึ่งเป็นบริษัทฯ ในประเทศไต้หวันที่ดำเนินธุรกิจให้บริการด้านอาหาร (Food Service) ทั้งผู้ผลิต ตัวแทนนำเข้าและตัวแทนจัดจำหน่ายในปี 2560 CSLF มีรายได้ประมาณ 589 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิประมาณ 20.7 ล้านบาท และตั้งเป้าเติบโตในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 15% โดย JWD จะเข้าถือหุ้น 60% ใน CSLF ใช้เงินลงทุน 160 ล้านบาท เพื่อรุกสู่การจัดการซัพพลายเชนของอุตสาหกรรมอาหารตั้งแต่ต้นทาง ซึ่ง CSLF มีความแข็งแกร่งด้านการทำ food serviceจากฐานซัพพลายเออร์อาหารที่มีอยู่ทั่วโลก รวมถึงเชนธุรกิจร้านอาหารและร้านค้าปลีกอาหาร สามารถขยายตลาดสำหรับฐานลูกค้าทั้งในไทยและอาเซียน โดยอาศัย JWD เป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์และฮับในการกระจายสินค้าภายในภูมิภาคอาเซียน (Multi-Country Consolidation) คาดว่าจะสามารถชำระเงินและโอนหุ้นเสร็จภายในเดือนเมษายนนี้

        นอกจากนี้ด้านภาพรวมอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ในภูมิภาคมีแนวโน้มเติบโตอีกมาก ตั้งเป้าขยายการลงทุนในภูมิภาคอาเซียนเพิ่มเติมอีก ประเทศภายในปี 2561 จากปัจจุบันที่มีฐานธุรกิจโลจิสติกส์ในภูมิภาคอาเซียนครบ ประเทศ ไดแก่ ลาว กัมพูชา พม่า อินโดนีเซียและประเทศไทย สำหรับกลุ่มอาหารและห้องเย็นซึ่งตลาดกำลังเติบโต บริษัทฯ มีแผนเปิดให้บริการคลังห้องเย็นเพิ่มเติมในประเทศเวียดนาม ภายในไตรมาสสองปีนี้ นอกจากนี้ มีแผนขยายการลงทุนห้องเย็นเพิ่มเติมในเมืองจากการ์ต้าและเมืองสุราบายาภายในปีนี้

www.mitihoon.com