PTT หวังเซ็นซื้อ LNG  โครงการโมซัมบิก 2.6 ล้านตันต่อปีได้ในปีนี้ พร้อมโดดแข่งประมูล จัดหา LNG โควตา กฟผ. 1.5 ล้านตันปี รับตลาดเสรี

247

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ปตท.หรือ PTT โดยนายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ เปิดเผยว่า ปตท.ยังอยู่กระบวนการประสานข้อมูลกับกระทรวงพลังงาน เพื่อขอความเห็นชอบการเซ็นสัญญารับซื้อก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ในโครงการโมซัมบิก โรวูมา ออฟชอร์ แอเรีย วัน ปริมาณ 2.6 ล้านตันต่อปี เป็นสัญญาระยะยาว 20 ปี โดยมองว่า โครงการดังกล่าวมีต้นทุนการผลิตต่ำ และราคาก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG)เป็นราคาที่แข่งขันได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย

โดยปัจจุบันโครงการโมซัมบิก ยังไม่ได้เริ่มดำเนินการและต้องใช้เวลาอีกพอสมควรกว่าจะแล้วเสร็จ ซึ่งหากเซ็นสัญญาในช่วงนั้นที่ตลาดเป็นของผู้ขายราคาก็อาจปรับสูงขึ้น แต่หากสามารถเซ็นสัญญาซื้อขายได้ในช่วงนี้ที่ตลาดเป็นของผู้ซื้อ และช่วงเวลารับก๊าซตลาดจะเป็นของผู้ขาย จะเป็นประโยชน์มากกว่าและปตท.ก็สนับสนุน

“เราอยากเซ็น long Term จะได้ lock in ช่วงราคาดี ซึ่งหวังว่าโครงการโมซัมบิก จะสามารถตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย(FID) ได้ภายในปีนี้ ขณะที่ ปตท.จะเดินหน้าขออนุมัติเซ็นสัญญาควบคู่กันไป โดยหากเซ็นสัญญาได้เร็ว อำนาจต่อรองก็จะดีขึ้นและราคาแข่งขันได้ ซึ่งปีที่ผ่านมาราคาLNG เฉลี่ยอยู่ที่ 6-7 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ใกล้เคียงกับราคาในปัจจุบัน ถือว่าเป็นตลาดผู้ซื้อ และการเข้าไป lock in long Term จะเป็นผลดีกกับผู้ซื้อ” นายวิรัตน์ กล่าว

นอกจากนี้ ปตท.ยังเตรียมพร้อมเข้าร่วมประมูลแข่งขันจัดหาก๊าซ LNG ในโควตาของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ที่ได้รับอนุมัติจากภาตรัฐให้เป็นผู้จัดหาในปริมาณ 1.5 ล้านตันต่อปี และเตรียมเปิดประมูลในปีนี้ โดยคาดว่า กฟผ.จะเปิดประมูลเป็นคาร์โก้ ในลักษณะตลาดจร และน่าจะมีผู้สนใจเข้าร่วมประมูลหลายราย ซึ่งปตท.ก็มีสิทธิเข้ารวมประมูลเพราะเป็นตลาดเสรี แต่จะร่วมประมูลในปริมาณเท่าไหร่นั้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้

ส่วนการศึกษาโครงการก่อสร้างคลังก๊าซธรรมชาติเหลวลอยน้ำ (FSRU) ในเมียนมา ขนาด 3 ล้านตันต่อปี ขณะนี้ยังไม่จำเป็นต้องเร่งรีบดำเนินโครงการ โดยยังรอดูความชัดเจนปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าในอนาคตจากแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ(พีดีพี)ฉบับใหม่ ซึ่งปัจจุบันการใช้ก๊าซมีแนวโน้มลดลง

www.mitihoon.com