โรงกลั่นกับความเจ็บที่ซ่อนไว้

271

ฮัลโหล ฮัลโหล เจ๊เรย์มาแร้นคร้าาา ตลาดหุ้นไทยของพวกเรา วูบวาบมากกกกกกกค่ะคุณผู้ชมว่ามะ เพราะตอนไม่มีปัจจัย ก็เงียบบบบ ไม่มีจริงๆ เงียบอย่างกะเป่าสาก แต่พอมีขึ้นมา มาแบบไม่หยุดไม่หย่อน คือมีหน่ะมีได้ แต่มีทั้งที ก็ขอมีข่าวดีหน่อยได้ไหมคะ เจ๊ขออออ!!! 55555  (อินเนอร์มาสุดๆๆ)

มาต่อกันภาคอวสาน จุดจบจริงๆ…ของการปรับโครงสร้างราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่น … ที่ได้ผลสรุปมาว่า กบง. ได้มีมติเห็นชอบใช้เกณฑ์ราคา Euro IV เป็นฐาน จากวิธีเดิมที่ใช้ Euro III เป็นฐาน  เนื่องจากสามารถสะท้อนสภาวะการแข่งขันในตลาดสากลได้ใกล้เคียงตามความเป็นจริงได้มากกว่า

ทั้งนี้ จะส่งผลให้ราคา ณ โรงกลั่น สำหรับน้ำมันเชื้อเพลิง ลดลง 41สตางค์ต่อลิตร สำหรับน้ำมันดีเซล และลดลง 61 สตางค์ต่อลิตร สำหรับแก๊สโซฮอล 91 (E10) 

นอกจากนี้ ได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา ถึงมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่อนุมัติให้ปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สำหรับน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล และดีเซล ลง 15 สตางค์ต่อลิตร เป็นระยะเวลา 2 ปี จะส่งผลให้ราคาขายส่ง (ก่อนรวมค่าการตลาดและจัดจำหน่ายตามสถานีบริการ) สามารถลดลงได้ 60 – 80 สตางค์ต่อลิตร

ใช่ค่ะ ทุกอย่างปรับลด  นั่นก็ลด นี่ก็ลด …ซึ่งแน่นอนว่า งานนี้ ผู้ประกอบการโรงกลั่น ..ทั้งเจ็บทั้งแสบ แต่ก็ยังยิ้มมุมปากแล้วบอกว่า ไม่เห็นกระทบ ไม่ได้โดนผลลบ อะไรทั้งสิ้น   โดยอ้างว่า สิ่งที่ทำอยู่เนี่ย เป็นการเตรียมตัว เตรียมใจไว้ก่อนแล้ว และก็ใช้สูตรนี้มาตั้งนานแล้ว …แต่ใช่เหรอคะ ใช้ราคานี้มาตั้งนานแล้วจริงๆ เหรอคะ…

ตามนั้นค่ะ คุณผู้ชมขาา บทสรุปเรื่องนี้  คือหวังว่า ทางผู้ประกอบการโรงกลั่น … ผู้ค้าปลีกน้ำมัน  จะสามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว เพื่อรับมาตรการใหม่ที่เริ่มใช้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่สำหรับเราๆ  ยิ้มกันให้เต็มที่เลยค่ะ เพราะราคาน้ำมันลดขนาดนี้ เติมให้ล้นถัง จ่ายน้อยกว่าเดิมอีกกกก คริคริ

www.mitihoon.com