EA ฤกษ์เปิดโครงการกังหันลมหนุมาน จ่อ COD ไตรมาส 4/61 ดันกำลังการผลิตรวมแตะ 664 MW

714

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA โดยนายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า โรงไฟฟ้าพลังงานลม จังหวัดชัยภูมิ หรือ “โครงการหนุมาน” ขนาดกำลังการผลิต 260 เมกะวัตต์   โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการติดตั้งเสากังหัน ซึ่งมีจำนวนรวมทั้งสิ้น 103 ชุด ขนาดชุดละประมาณ 2.5 เมกะวัตต์ โดยในวันนี้ (25 พ.ค.) ได้ถือฤกษ์ดี ทำพิธีติดตั้งใบพัดกังหันลม (Blade Lifting Ceremony) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อัดงบ 2 พันลบ.ตั้งโรงงานผลิตไบโอดีเซล-กรีนดีเซล-พีซีเอ็ม เริ่มก่อสร้างปลายปี 61 แย้มสนใจร่วมทุนพาร์ทเนอร์ทั้งใน-ตปท.

“ภายหลังการติดตั้งชุดอุปกรณ์เสร็จสิ้นทั้งหมด เราจะเริ่มทำการทดสอบระบบการผลิตและจ่ายไฟฟ้า ก่อนที่จะเริ่มการขายไฟเข้าระบบในเชิงพาณิชย์ (COD) ภายในไตรมาสที่ 4 ปี 2561 นี้ ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตไฟฟ้าของบริษัทฯ ทั้งในส่วนของโซลาร์ฟาร์มและวินด์ฟาร์ม เพิ่มเป็น 664 เมกะวัตต์ ผลักดันรายได้และกำไรในปี 2561 และ 2562 ให้เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง” นายอมรกล่าว

ทั้งนี้ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมหนุมาน ขนาดความสูงของเสากังหันลมอยู่ที่ 153 เมตร เทียบเท่าตึก 43 ชั้นซึ่งถือได้ว่ามีขนาดใหญ่และใช้เทคโนโลยีการก่อสร้างที่ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย เหมาะสำหรับสภาพความเร็วลมของภาคอีสานเป็นอย่างดี

โดยหลังจากโรงไฟฟ้าพลังงานลมโครงการหนุมาน จ่ายไฟเข้าระบบตามแผน จะทำให้กุมกำลังการผลิตไฟฟ้ากว่า 664 เมกะวัตต์ มีกระแสเงินสดหมุนเวียนเพิ่มขึ้น เพียงพอสำหรับแผนการลงทุนในช่วง 1-2 ปีนี้ (2561-2562) ที่เตรียมใช้งบลงทุนกว่า 2.47 หมื่นล้านบาท

สำหรับขยายการลงทุนโรงไฟฟ้า โรงงานผลิตไบโอดีเซล สถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ และโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่เฟส 1 ซึ่งได้เตรียมแผนการลงทุนไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเมื่อผนวกกับแผนการจัดหาเงินโดยการออกหุ้นกู้ การกู้ยืมจากสถาบันการเงินและเงินสดหมุนเวียนทำให้ไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มทุนแต่ประการใด

พร้อมกันนี้ บริษัทเตรียมก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ โดยใช้ลงทุน 2,000 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิตในส่วนของไบโอดีเซลเป็น 800,000 ลิตรต่อวัน รวมถึง กรีนดีเซล และ พีซีเอ็ม เป็น 130,000 ลิตรต่อวัน จากก่อนหน้านี้ได้มีการศึกษาและทดลองรวมมองหาตลาดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พบว่ามีแนวโน้มที่จะเติบโตได้ดีเป็นอย่างมาก คาดว่าโรงงานดังกล่าวจะเริ่มก่อสร้างภายในปลายปีนี้ และจะใช้เวลาราว 8 เดือน ในการก่อสร้าง ซึ่งขณะนี้มีลูกค้าที่พร้อมรองรับผลิตภัณฑ์ดังกล่าวแล้ว

อีกทั้ง ยังมองหาโอกาสที่จะเข้าร่วมทุนระหว่างพันธมิตร ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อลงทุนในธุรกิจที่สามารถต่อดยอดได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด  โดยตามแผน จะเป็นการผุดโปรเจ็กต์ใหม่ขึ้นมา โดยให้พันธมิตรเข้าถือหุ้นไม่เกิน 10% ส่วนที่เหลือจะเป็นการลงทุนของทางบริษัทฯ ซึ่งจะได้เห็นความชัดเจนภายในปลายปีนี้เช่นกัน

นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมเงินลงทุนไว้ทั้งปีที่ 7,000 ล้านบาท เป็นงบลงทุนปกติที่จะใช้ทุกปี และทางบริษัทยังไม่มีแผนที่จะเพิ่มทุนแต่อย่างใด เนื่องด้วยเงินสดในมือยังคงมีเพียงพอในการเข้าลงทุนขยายธุรกิจในอนาคต ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีความสนใจที่จะลงทุนโรงไฟฟ้าในประเทศเวียดนาม 4-5 โครงการ กำลังการผลิตรวม 200 เมกะวัตต์ หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้นักลงทุนทราบโดยทันที

ส่วนโรงงานแบตเตอร์รี่ เฟส1  จำนวน 1 กิกะวัตต์(GWh) มูลค่าลงทุนรวมที่ดิน 4,000 ล้านบาท ปัจจุบันได้ซื้อเครื่องจักรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมจะติดตั้งได้ช่วงไตรมาส 3/2562   คาดจะเริ่มผลิตและมีรายได้เข้ามาช่วงปี 2562 และในปี 2564 คาดจะเริ่มก่อสร้างในเฟส2 จำนวน 49 GWh เพื่อใช้ขยายตลาดสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าอื่นๆ

www.mitihoon.com