NER ลูบปากบุ๊กรายการพิเศษ ดันกำไรQ2แรงฟ้าผ่า (16/07/63)

631

มิติหุ้น-NER ซุ่มเจรจาลูกค้ารายใหม่ 2 ราย คาดเซ็นสัญญาเร็วๆนี้ จับตาผลงานไตรมาส 2/63 ทำนิวไฮแรง เหตุบันทึกกลับรายการจากอัตราแลกเปลี่ยนเป็นกำไรราว 70-120 ล้านบาท แถมลูกค้าจีนสั่งออเดอร์ไม่หยุด เปิดฉาก “โรงงานใหม่” หวังโกยออเดอร์ล็อตใหญ่เข้าพอร์ต มั่นใจทั้งปี 63 รายได้ทำนิวไฮโต 25% แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 3.10 บาท

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.นอร์ทอีส รับเบอร์ หรือ NER ทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และยางผสม เพื่อจำหน่ายไปยังผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งในและต่างประเทศ โดย “นักวิเคราะห์หลักทรัพย์” เปิดเผยว่า ผลงานไตรมาส 2/63 คาดกำไรสุทธิจะเติบโตทำสถิติสูงสุดแห่งปี (นิวไฮ) เพราะจะมีการบัญทึกรายการพิเศษซึ่งเป็นการบันทึกกลับรายการจากอัตราแลกเปลี่ยนเป็นกำไรราว 70-120 ล้านบาท

ส่วนธุรกิจปกติเริ่มทะยอยส่งมอบออเดอร์ให้ลูกค้าจีน และยังรับออเดอร์ใหม่ๆเข้ามาทั้งจากลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ เพราะภายหลังจีนผ่อนคลายล็อกดาวน์ทำให้ความต้องการ “ล้อยางรถยนต์” เพิ่มมากขึ้น ทั้งการที่ NER เปิดโรงงานแห่งใหม่ทำให้มีกำลังผลิตเพียงพอเพื่อรองรับลูกค้าใหม่ๆที่กำลังจะเข้ามามากขึ้น โดยทั้งปี 63 คาดกำไรทำนิวไฮ แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 3.10 บาท

โชว์กำไรแรง750ล.
“บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)” เปิดเผยว่า ฝ่ายวิจัยแนะนำ “เพิ่มน้ำหนัก” เข้าลงทุนในหุ้น NER คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/63 จะเติบโตโดดเด่น และช่วงครึ่งปีหลังการเติบโตจะเร่งตัวมากขึ้น จากการรับรู้รายได้ของลูกค้าใหม่ คือ LLIT และ Triangle ผู้ผลิตยางรายใหญ่จากจีน

ทั้งนี้ “หุ้นกลุ่มยางพารา” มีปัจจัยบวก หลังนายกรัฐมนตรีลงนามใช้ยางพาราทำวัสดุบนถนนระหว่างปี 63-65 มูลค่า 3 หมื่นล้านบาท ช่วยหนุนราคายางให้ฟื้นตัวจาก Supply ที่ลดลง ส่งผลบวกต่อ NER ทำธุรกิจ Trading ยางพาราที่ใช้กลยุทธ์ Cost Plus Pricing โดยทั้งปี 63 คาดกำไรสุทธิทำนิวไฮที่ 600 ล้านบาท และปี 64 ที่ 750 ล้านบาท แนะนำ “เก็งกำไร”

ดีลลูกค้าใหม่ดันฐานผลิตพุ่ง
ด้าน “นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาลูกค้ารายใหม่ซึ่งเป็นสัญญาระยะยาว (Long Term Contact)เพิ่มอีก 2 ราย คาดว่าจะเซ็นสัญญาเร็วๆนี้  ซึ่งมั่นใจจะมีกำลังผลิตเพียงพอ เพราะช่วงเดือน พ.ค. 63 ได้เดินเครื่องจักร “โรงงานแห่งใหม่” ทำให้มีกำลังการผลิตเพิ่มอีก 1.76 แสนตันต่อปี เมื่อรวมกำลังการผลิตของทั้ง 2 โรง จะมีกำลังผลิตเพิ่มเป็น 4.60 แสนตันต่อปี จากปัจจุบันโรงงานเดิมมีกำลังผลิตเต็มแล้วที่ 2.9 แสนตันต่อปี

ดังนั้นทั้งปี 63 มั่นใจรายได้รวมจะเติบโตทำนิวไฮที่ 1.7 หมื่นบ้านบาท เติบโต 25% จากปีก่อน ส่วนยอดขายจะอยู่ที่ 3.5 แสนตัน/ปี จากปีก่อน 2.8 แสนตัน/ปี

www.mitihoon.com