ดัชนี SET index บีบกรอบแคบขึ้นเรื่อยๆ

135

ดัชนี SET index สัปดาห์ที่ผ่านมา Sideway ในกรอบตามคาด แม้จะมีการปรับลงในช่วงต้นสัปดาห์ แต่ฟื้นตัวขึ้นมาได้และเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยมีปัจจัยกดดันจากปัจจัยในประเทศ คือ ความกังวลเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบที่ 2 ในไทย และการปรับคณะรัฐมนตรี สำหรับสัปดาห์นี้ ประเมินจะยังแกว่งตัว Sideway ในกรอบแคบขึ้นเรื่อยๆ คือแนวรับ 1,330 จุด / แนวต้าน 1,370 จุด ซึ่งการบีบกรอบแคบของดัชนีในลักษณะเช่นนี้ มีโอกาสทั้ง Break-out แนวต้าน และ Break-down แนวรับ จึงต้องติดตามปัจจัยต่างๆ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะมีผลต่อดัชนี SET index

  1. i) สถานการณ์ COVID-19 ในสหรัฐฯ และความเสี่ยงต่อการปิดเมือง/ปิดธุรกิจเพิ่มเติม
  2. ii) ตัวเลขส่งออก/นำเข้า เดือน มิ.ย. ของไทย

            iii) ผลประกอบการไตรมาส 2/2563 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทย

  1. iv) ตัวเลข flash PMI เดือน ก.ค. ของประเทศหลักๆ ของโลก เพื่อประเมินโมเมนตัมการฟื้นตัวของเดือน ก.ค. ซึ่งเป็นเดือนที่มีการระบาดของ COVID-19 รุนแรงขึ้น     

หากมีประเด็นข่าวบวกเพียงพอที่ส่งผลให้ SET index Break-out แนวต้าน 1,370 จุด มีโอกาสที่ดัชนีจะทดสอบแนวต้าน 1,400 จุด / แต่ในกรณีเลวร้ายที่ปัจจัยต่างๆข้างต้นพลิกเป็นลบเพียงพอที่จะกดดันดัชนีให้หลุดแนวรับ 1,330 จุด มีโอกาสที่ดัชนีจะพักฐานลงไปทดสอบแนวรับที่ 1,300 จุด แต่ด้วยสภาพคล่องที่ยังคงล้นตลาดทุน เราประเมินว่าการพักฐานจะเป็นโอกาสสะสมหุ้นอีกครั้ง

ธีมการลงทุนที่น่าสนใจ i) กลุ่มที่ผลการดำเนินงาน Turnaround หรือ โตเด่น เช่น โรงกลั่น (SPRC, TOP, ESSO), ii) สำหรับหุ้นขนาดกลาง – เล็กที่น่าสนใจ และอาจพิจารณาเก็งกำไรเป็นกลุ่มคู่แม่-ลูก อาทิ EA-NEX, JMART-JMT-SINGER, STA-STGT เป็นต้น iii) กลุ่มอาหาร รับค่าเงินบาทอ่อน และราคาเนื้อสัตว์พุ่งแรง CPF, TFG, GFPT เป็นต้น และ iv) หุ้นกลุ่มวัสดุก่อสร้าง รับ Sentiment บวกจากงบกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่คาดจะเน้นหนักไปที่งานก่อสร้าง SCC, SCCC เป็นต้น

โดย สุโชติ ถิรวรรณรัตน์. ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. เคจีไอ (ประเทศไทย)

www.mitihoon.com