บลจ.ยูโอบี ชี้ทางจัดพอร์ตช่วงโค้งท้ายปี ให้น้ำหนักหุ้นเทคโนโลยีมาแรง

221

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า นายกุลฉัตร จันทวิมล รองกรรมการผู้จัดการ และหัวหน้าหัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ยูโอบี (ประเทศไทย) หรือ UOBAM เปิดเผยว่า บลจ.ยูโอบี(ประเทศไทย) รวมถึงบริษัทแม่ที่สิงคโปร์ยังคงมีมุมมองต่อการลงทุนไปในทิศทางเดียวกัน โดยให้น้ำหนักความน่าสนใจในหุ้นมากกว่าตราสารหนี้ สำหรับกลยุทธ์เลือกลงทุนยังเน้นไปที่หุ้นทั่วโลกที่มีแนวคิดการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน หรือ ESG ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและสังคม เนื่องจากมองว่ามีโอกาสในการเติบโตได้อีกมาก อีกทั้งพบว่าการลงทุนในหุ้น ESG เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนสูงกว่าถึงระดับ 3-5% เมื่อเทียบกับหุ้นในธุรกิจทั่วไป

ขณะเดียวกันยังมองว่าตลาดหุ้นจีนมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยเฉพาะในตลาดหุ้นจีน A-Share เนื่องจากการฟื้นตัวหลังโควิดโดดเด่นเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ขณะที่ธีมการลงทุนเน้นในหุ้นกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับเทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่ กลุ่ม HealthCare รวมถึง Education Tech. ซึ่งถ้าเทียบกับช่วงหลายปีก่อน ทิศทางการปรับตัวของกลุ่ม Health Care และ Education Tech. ขยับขึ้นทำนิวไฮต่อเนื่อง โดยเร่งตัวขึ้นชัดเจนหลังการเกิดระบาดไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ ในระยะถัดไปตลาดหุ้นญี่ปุ่นจะมีความน่าสนใจเพิ่มขึ้น หลังเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวดีขึ้นจากจุดต่ำสุด ซึ่งถือว่าเป็นตลาดที่ยัง Laggard เช่นเดียวกับยุโรป

ส่วนภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นไทยช่วงที่เหลืออยู่ของปี 2563 ประเด็นการเมืองในประเทศเป็นเรื่องที่ต้องจับตาต่อเนื่อง และส่งผลกระทบเชิงจิตวิทยาทำให้บรรยากาศการลงทุนไม่คึกคัก มอง SET INDEX แกว่งตัวในกรอบ 1,200 -1,300 จุด คำแนะนำสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ แนะให้จัดพอร์ตการลงทุน แบ่งเป็นตรสารหนี้สัดส่วน 50-70% ,หุ้น 0 -10% และลงทุนทางเลือก 10-20% ส่วนนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง ให้แบ่งเงินลงทุนตราสารหนี้สัดส่วน 25% ,หุ้น 50% และการลงทุนทางเลือก 25%

www.mitihoon.com