ดัชนีทะยานรับข่าวบวก แนะรอจังหวะซื้อเมื่อย่อตัว

183

ผ่านการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯไปเป็นที่เรียบร้อย ทั้งตลาดหุ้นสหรัฐฯและไทยปรับตัวขึ้นในทันที โดยนาย โจ ไบเด็น ได้รับคะแนนเสียงชนะ โดนัลด์ ทรัมป์ค่อนข้างห่างกัน  (290 – 214 เสียง) แต่ยังรอการประกาศผลอย่างเป็นทางการ อีกครั้งหนึ่ง  ผลการเลือกตั้งดังกล่าวเริ่มเห็นผลบวกต่อแรงซื้อสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้นขณะที่เงินดอลล่าร์มีแนวโน้มอ่อนค่าลง จากการคาดการณ์ว่าสหรัฐฯจะผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้เร็ว ซึ่งจะส่งผลบวกต่อหุ้นที่เกี่ยวข้องกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์  แต่อาจเป็นผลลบต่อหุ้นส่งออกเพราะเงินบาทแข็ง และยังมีปัจจัยกดันจากการติดเชื้อ Covid-19 รอบ 2 ในหลายประเทศ

อย่างไรก็ตามมีข่าวดีในเรื่องวัคซีนต้าน COVID-19 ออกมา หลังจาก Pfizer บริษัทยาของสหรัฐ และ BioNTech บริษัทยาของเยอรมนี แถลงผลการทดลองวัคซีนต้านไวรัส COVID-19 ที่ทั้ง 2 บริษัท พัฒนาร่วมกันนั้นมีประสิทธิภาพมากกว่า 90% ในการป้องกัน COVID-19 ในผู้ที่ไม่เคยติดเชื้อมาก่อนและจะยื่นจดทะเบียนต่อสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ในช่วงสัปดาห์หน้า และหาก FDA อนุมมัติได้ภายในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนนี้จะสามารถผลิตวัคซีนได้เลย

จากข่าวนี้ KTBST SEC มองว่าความคืบหน้าของวัคซีนรอบนี้มีโอกาสที่จะสำเร็จสูงมากและจะใช้ได้เร็วภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งเร็วกว่าวัคซีนอื่นที่จะเริ่มใช้ได้ภายในกลางปีหน้า  ดังนั้นคาดว่าตลาดหุ้นไทย จะเกิดการเปลี่ยนกลุ่มลงทุนไปยังหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว  , พลังงาน , ธนาคาร , ขนส่ง และกลุ่มสุขภาพ ที่คาดว่าจะได้ผลบวกจากข่าวดังกล่าว

ส่วนทิศทางราคาน้ำมัน ที่ถูกกดดันจากเรื่อง Covid-19 มาระยะหนึ่งก่อนหน้านี้ KTBST SEC คาดว่ามีโอกาสที่จะเริ่มเดินหน้าบวกได้ หลังราคาน้ำมัน Brent เคลื่อนไหวขึ้นมา 41 เหรียญฯ

ส่วนปัจจัยในประเทศไทยเรื่องทิศทางการเมืองและการชุมนุมยังเป็นประเด็นหลักที่ต้องติตตาม แม้จะเริ่มดูผ่อนคลายลง จากช่วง 2 สัปดาห์ก่อนหน้า แต่ในช่วงนี้นักลงทุนจะให้ความสนใจกับการรายงานกำไรไตรมาสที่ 3 ซึ่งเป็นไตรมาสที่สำคัญที่จะบ่งชี้ว่าหุ้นใดสามารถผ่านจุดวิกฤตของ Covid-19 มาได้แล้วบ้าง และหุ้นไหนยังได้รับผลกระทบต่อไป

ดังนั้นการลงทุนในหุ้นไทยสัปดาห์นี้  คาดว่ามีแนวโน้มดัชนีจะโอกาสทะลุระดับ 1,300 จุดได้ จากปัจจัยบวกต่างประเทศ  เป็นการปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมาก นักลงทุนอาจพิจารณาหาจังหวะเข้าซื้ออีกครั้งเมื่อดัชนีย่อตัว  โดยเน้นหุ้นที่เคลื่อนไหวตามตลาด หรือหุ้นที่ได้ประโยชน์ทางตรงจากความสำเร็จเรื่องวัคซีน และต้องระมัดระวังหุ้นที่เคยได้ประโยชน์จาก Covid-19 ซึ่งอาจมีแรงขายทำกำไรช่วงสั้นออกมา

สำหรับสินทรัพย์ลงทุนอื่นๆ KTBST SEC ยังแนะนำตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในกลุ่มที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากนโยบายของประธานาธิบดีคนใหม่ เช่น กลุ่มพลังงานสะอาด , กลุ่มเทคโนโลยี , กลุ่มสื่อสาร และกลุ่มสาธารณสุข  รวมถึงนโยบายลดการติดเชื้อของคนอเมริกันลงด้วยการเว้นระยะห่างกัน(Social distancing)  นอกจากนี้แนะนำลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชน ที่มีอายุประมาณ 3-5 ปี  หลังจากเศรษฐกิจเริ่มมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น  ส่วนตลาดหุ้นที่ควรหลีกเลี่ยงคือ ยุโรป หลังการระบาดอย่างหนักอีกครั้งจนหลายประเทศต้องทำการ lockdown  และอาจทำให้เศรษฐกิจได้ช้า

www.mitihoon.com