EA โบรกชี้ปีนี้เริ่มรับรู้รายได้ E Bus สัญญาณกำไรยังโตทรงตัว

360

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ บมจ.พลังงานบริสุทธ์ หรือ EA ว่า จากการประชุมนักวิเคราะห์วันที่ 8 มี.ค. 64 ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นกลางถึงค่อนข้างลบ สำหรับหน่วยธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน บริษัทตั้งเป้าเปลี่ยนแผงโรงไฟฟ้าบางส่วนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ ซึ่งอาจทำให้ Yield เพิ่มขึ้นราว 20% จากปัจจุบัน

ส่วนหน่วยธุรกิจ EV – Car จำนวน 5,000 คัน มีโอกาสเลื่อนทยอยส่งมอบจากปี 2564 เป็นปี 2565 เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการกลุ่มสหกรณ์แท็กซี่ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID – 19

หน่วยธุรกิจ E Ferry ตั้งเป้าให้บริการทั้งหมด 27 ลำ ปัจจุบัน เปิดให้บริการแล้ว จำนวน 6 ลำ และอยู่ระหว่างการผลิตอีกจำนวน 21 ลำ คาดจะทยอยเปิดให้บริการตั้งแต่ไตรมาส2/64 เป็นต้นไป

หน่วยธุรกิจ E Bus คาดจะทยอยส่งมอบ จำนวน 300 400 คันให้กับกลุ่มเอกชนภายใน ไตรมาส2/64 และอยู่ระหว่างการเจรจากับกลุ่มเอกชนอีกจำนวน 500 คัน ขณะที่การประมูลรถบัสไฟฟ้ากับทาง ขสมก. อีกจำนวน 2,500 คัน ต้องรอความชัดเจนจากทางภาครัฐ

หน่วยธุรกิจ Battery จำนวน 1 GWh คาดจะเปิดดำเนินการภายใน ไตรมาส2/64 โดยบริษัท ตั้งเป้า U rate ที่ 50 80% ทำให้ปี 2564 คาดจะผลิตแบตเตอรี่ได้จำนวนราว 0.5 GWh เบื้องต้น แบตเตอรี่จะถูกนำไปใช้ในภายในกลุ่มบริษัทฯ อาทิ E Bus, E Ferry และสถานีบริการอัดปะจุไฟฟ้า

บริษัทตั้งเป้างบลงทุน (CAPEX) ปี 2564 ที่ 6,100 ลบ. แบ่งเป็น การซ่อมแผงโรงไฟฟ้า จำนวน 2,800 ลบ., ขยายธุรกิจแบตเตอรี่ จำนวน 1,200 ลบ., ขยายกลุ่มธุรกิจ EV Car, E Bus และ E Ferry จำนวน 1,500 ลบ. และกลุ่มธุรกิจอื่นๆ อีก 600 ลบ.

ฝ่ายวิจัยคาดกำไรปกติในไตรมาส1/64 อยู่ในระดับ 1,300 ลบ. +/- ชะลอเล็กน้อย QoQ และทรงตัว YoY จากกระแสลมที่ลดลงตามฤดูกาลและการระบาดระลอกใหม่ของ COVID 19 อาจเป็นปัจจัยกดดันราคาจำหน่ายและปริมาณการจำหน่ายในหน่วยธุรกิจ B100

โดยยังคงประมาณการกำไรปกติปี 2564 ที่ 5,207 ลบ. (+4%YoY) จากการรับรู้รายได้ Bio PCM ขนาด 65 ตัน/วัน เต็มปีเป็นปีแรก, เริ่มรับรู้รายได้ E Bus จำนวน 300-400 คันซึ่งจะทยอยส่งมอบในไตรมาส2/64 (ยังไม่รวมไว้ในประมาณการ) และโรงงานแบตเตอรี่ ขนาด 1 GWh คาด COD ในไตรมาส2/64

คงคำแนะนำ TRADING ที่ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2564 ที่ 69.0 บาท/หุ้น มี Upside gain 15.5% อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นอาจมี Sentiment เชิงลบจากความไม่ชัดเจนของการประมูลรถบัสไฟฟ้า ขสมก. ซึ่งเป็น Catalyst สำคัญในการเติบโตในอนาคต

ความเสี่ยง ผลตอบแทนพัทธบัตรรัฐบาลมีโอกาสปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นลบต่อหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า รวมทั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่อาจทำให้เกิด Sector rotation เนื่องเป็นหุ้นกลุ่ม Defensive
ทางเทคนิค แนวรับ 57.50 / 55.00 / 51.00 แนวต้าน 61.00 / 62.50 / 63.50 และจุด Stop loss ที่ 50.00