VNG กำไรเทิร์นอะราวด์   กูรูปรับเป้าใหม่ 10 บาท

1734

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.วนชัย กรุ๊ป หรือ VNG ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายแผ่นไม้ (Panel Board) เพื่อใช้ทดแทนไม้ธรรมชาติ และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่อง โดยมีผลิตภัณฑ์หลักคือ แผ่นเอ็มดีเอฟ และแผ่นปาร์ติเกิ้ล จำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ โดยนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ประเมินแนวโน้มกำไรไตรมาส 2/64 คาดมีโอกาสทำได้ดีกว่าไตรมาสแรก ที่มีกำไรสุทธิ 129.24  ล้านบาท ภายหลังจากบริษัทได้รับปัจจัยบวกจากต่างชาติเริ่มทยอยเปิดประเทศ ส่งผลให้บริษัทสามารถมียอดขายแผ่นเอ็มดีเอฟ และแผ่นปาร์ติเกิ้ลได้เพิ่มขึ้น รวมทั้งมีรายขายเฉลี่ยต่อแผ่นเพิ่มขึ้น ขณะที่ผลงานปี64 คาดพลิกกลับมามีกำไร ให้คำแนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 10 บาท

ลั่นปีนี้เทิร์นอะราวด์-ผุดโปรดักส์ใหม่
“นายสมประสงค์ สหวัฒน์” กรรมการ VNG เปิดเผยว่า มั่นใจว่าภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 64  จะพลิกกลับมามีกำไรในรอบ 4 ปี จากกำไรในไตรมาส 1/64  ฟื้นตัวอย่างชัดเจน ถือเป็นการส่งสัญญาณการเทิร์นอะราวด์อย่างเต็มรูปแบบในปีนี้

ขณะเดียวกันกลุ่มบริษัทฯพยายามเพิ่ม Product Mix สินค้าที่มีราคาแพงเพิ่มขึ้น โดย VNG เป็นผู้ผลิตรายแรกของเอเชียที่ทำไม้ OSB  ส่งออกและขายในประเทศ ถือเป็นธุรกิจใหม่ ที่ราคาสูงกว่าสินค้า Core products เดิมอย่าง MDF Board และ Particle board อีกทั้งไม้แบบก่อสร้าง Shuttering Board ยังมีความทันสมัย และใหญ่สุดในประเทศไทย ทดแทนการนำเข้ากว่าปีละ 10,000 ล้านบาท โดยเน้นขายในประเทศ

ลุยโซลาร์-ไบโอแมสลดต้นทุน

ด้านแผนโครงการขยายการลงทุนพลังงานทดแทน บริษัทได้วางงบลงทุน 3,000 ล้านบาท สำหรับใช้ขยายการลงทุนโซลาร์รูฟท็อป และโครงการโรงไฟฟ้าไบโอแมส  โดยตั้งเป้าหมายภายในปี 65 จะมีกำลังผลิตโรงไฟฟ้าโซลาร์รูฟท็อป เพิ่มเป็น 20 MW และโรงงานไฟฟ้าพลังงานชีวมวล 40 MW เพื่อให้ลดต้นทุนทางการผลิตโดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าได้ถึง 30% จากปัจจุบันที่ประมาณ 70% และคาดว่าจะใช้ระยะเวลาถึงจุดคุ้มทุนภายใน 4-5 ปี หลังจากขายไฟเข้าระบบ