TU เล็ง Spin off บ.ลูกเข้าตลาด ใจป้ำปันผลแรงสูงสุดตั้งแต่ก่อตั้ง(18/08/64)

730

 

มิติหุ้น– TU โชว์กำไรQ2โตแรงทะลุ 2.3 พันลบ.ประกาศปันผลระหว่างกาล 0.45บาทสูงสุดตั้งแต่ก่อตั้ง ลั่นเน้นลงทุนธุรกิจใหม่มาร์จิ้นสูง 20% พร้อมเล็ง Spin off 3 บริษัทเข้าตลาดหุ้นไทยและสหรัฐสร้างความเชื่อมมั่นนลท.

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) ผู้นำด้านอาหารทะเลระดับโลก ครอบคลุมทั้งผลิตและส่งออกอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งและบรรจุกระป๋อง และขยายธุรกิจให้ครบวงจรด้วยธุรกิจอาหารสำเร็จรูป โดยนายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า จากผลการดำเนินงานไตรมาส2/64 ที่ออกมามีกำไรสุทธิที่ 2,343 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36 %บริษัทสามารถ จากทั้งปัจจัยยอดส่งออกที่เติบโตเนื่องจากหลายประเทศในสหรัฐ และยุโรปเปิดประเทศ ธุรกิจร้านอาหาร Red lobster ในสหรัฐที่พลิกกลับมามีกำไร รวมทั้งอานิสงส์ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าส่งผลให้มาร์จิ้นปรับสูงขึ้นแตะระดับ 19% อนาคตมีโอกาสได้เห็นมาร์จิ้นระดับ 20 %

ปันผลระหว่างกาล0.45บ.สูงที่สุด

ส่งผลให้บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลระกว่างกาลที่หุ้นละ 0.45 บาท/หุ้น  นับว่าเป็นการประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลสูงที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา ซึ่งไตรมาส3นี้ก็จะมีผลิตภัณฑ์ในส่วนของธุรกิจนวัตกรรมใหม่ๆ ที่บริษัทได้เดินหน้าจัดตั้งบริษัทอาทิ จัดตั้งธุรกิจเกี่ยวกับอาหารเสริม บริษัทไทยยูเนี่ยน ไลฟ์ไซเอนซ์ จำกัด รวมถึงธุรกิจเกี่ยวกับ Alternative proteins ออกสู่ตลาดด้วย เช่นทูน่ากระป๋องเสริมแคลเซียม แบรนด์จอห์นเวสต์ ออกที่ตลาดออสเตรเลีย และนส่วนของอาหารสัตว์เลี้ยงก็จะมีอาหารสัตว์ที่เป็นเม็ดออกวางจำหน่ายด้วย รวมทั้งอาหารตามช่วงวัยของสุนัขและแมว อุดมด้วยโปรตีนกว่า 30% มีดีเอชเอ โอเมก้าสาม และวิตามินเอ และสารอาหารอื่นๆ ที่สำคัญสำหรับสัตว์เลี้ยง

ซึ่งแนวโน้มครึ่งหลังบริษัทยังเชื่อมั่นว่าผลการดำเนินงานยังจะเติบโตอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายไว้รายได้เติบโตระดับ

5 % จากปีก่อนที่มีรายได้ 1.34 แสนล้านบาท

มีแผน Spin off 3 บริษัทเข้าตลาด

นอกจากนี้บริษัทยังมีแผน Spin off นำบริษัทในเครือ 3 บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ นำโดยบริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน)ประกอบธุรกิจอาหารสัตว์น้ำในประเทศไทย ซึ่งยื่นไฟล์ลิ่งกับทาง ก.ล.ต.แล้วคาดจะเข้าปลายปีนี้ ,Red lobster ธุรกิจร้านอาหารในสหรัฐซึ่งเริ่มมีกำไรไตรมาส2นี้ บริษัทมีแผนระยะ 3-4 ปีจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ นอกจากนี้ยังมีอีก 1 บริษัทในกลุ่มธุรกิจหลักมีแผนจะยื่นไฟล์ลิ่งต่อ ก.ล.ต.ต้นปี 65  และคาดจะเข้าตลาดได้ช่วงไตรมาส3/65 จึงทำให้นักลงทุนมั่นใจได้ว่าบริษํทจะเติบโตได้ในระยาวและที่สำคัญยังเป็นบริษัทที่มี PE ไม่สูงระดับ 15 เท่า อัตราปันผลระดับ 4% ต่อปี และทีสำคัญมีสัดส่วนรายได้ส่งออกสูงถึง 90%

🚩🚩ห้อง Official Line ห้องไลน์ฟรี มิติหุ้น ทันทุกสถานการณ์การลงทุน หุ้นเด่น หุ้นเด็ดตลอดวัน กับห้องไลน์ @mitihoonwealth ห้องไลน์ที่นักลงทุนเข้าเป็นสมาชิกฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพียงคลิกลิงค์นี้ก็เข้าได้เลย และสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้

https://lin.ee/cXAf0Dp