TOP วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน

68

ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังตลาดกังวลอุปสงค์ชะลอตัว

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับตัวลดลง หลังนักลงทุนเทขายทำกำไร ภายหลังราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง 6 สัปดาห์ติดต่อกัน นอกจากนี้ ตลาดยังคงกังวลต่อความต้องการใช้น้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มปรับลดลงหลังสิ้นสุดฤดูกาลขับขี่

นางมิเชล โบว์แมน หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าเฟดควรเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ที่ระดับเป้าหมายที่ 2% โดยปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ อยู่ที่ระดับ 5.25-5.50%

+/- นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ก.ค. ของสหรัฐฯ ซึ่งจะเปิดเผยในวันที่ 10 ส.ค. โดยตลาดคาดอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ระดับ 3.3% ปรับสูงขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 3.0% นอกจากนี้ตลาดยังคงจับตาตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญของจีน อันได้แก่ ตัวเลขการนำเข้าและส่งออกเดือน ก.ค.  และตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน ก.ค. ซึ่งจะเปิดเผยในวันที่  8-9 ส.ค. นี้

ตลาดผ่อนคลายความกังวลต่อเหตุการณ์ท่อน้ำมันดิบ Druzhba ซึ่งขนส่งน้ำมันดิบจากรัสเซียสู่ยุโรปรั่วไหล หลังบริษัท PERN กล่าวว่าท่อขนส่งน้ำมันจะสามารถกลับมาดำเนินการได้ตามปกติในวันที่ 8 ส.ค.

ราคาน้ำมันเบนซิน : ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดคาดความต้องการใช้น้ำมันเบนซินของอินโดนีเซียยังคงอยู่ในระดับสูงที่ราว 10 –11 ล้านบาร์เรล ในเดือน ส.ค. อย่างไรก็ตาม ราคายังคงได้รับแรงกดดันจากความกังวลต่อโควต้าการส่งออกรอบใหม่ของจีน

ราคาน้ำมันดีเซล : ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลงสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังของยุโรป ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 3 ส.ค. 66 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.3% ขณะที่การส่งออกไปยังฝั่งตะวันตกมีแนวโน้มอ่อนตัวลง

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon