TOP วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน

127

ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นกว่า 6% หลังตลาดกังวลความขัดแย้ง
ในตะวันออกกลางจะขยายวงกว้าง

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา

+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นกว่า 6% ซึ่งนับเป็นการปรับเพิ่มขึ้นมากสุดในรอบวันนับตั้งแต่เดือน เม.ย. 66 หลังตลาดกังวลความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส จะขยายวงกว้างและนำไปสู่สงครามในตะวันออกกลางได้ โดยความกังวลเริ่มประทุขึ้น หลังอิสราเอลประกาศเตือนให้ประชาชนอาศัยในฉนวนกาซาตอนเหนืออพยพภายใน 24 ชั่วโมง ทำให้ตลาดคาดว่าอิสราเอลเตรียมจะใช้กองกำลังทหารเข้าจู่โจมทางบกในเร็วนี้

+ สหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรบริษัทเรือ 2 แห่งที่เคยบรรทุกน้ำมันดิบของรัสเซียที่มีราคาสูงกว่าเพดานราคาของกลุ่ม G7 ที่ระดับ 60 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล สร้างความกังวลต่อการขนส่งน้ำมันดิบของรัสเซียและภาพรวมของตลาดเรือขนส่ง

ปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 สัปดาห์ หลังราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้น โดย Baker Hughes รายงานปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้น 3 แท่น สู่ระดับ 622 แท่น สำหรับสัปดาห์ สิ้นสุด ณ วันที่ 13 ต.ค. นำโดยการเพิ่มขึ้นของการขุดเจาะน้ำมันดิบ

ราคาน้ำมันเบนซิน : ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากตลาดน้ำมันเบนซินสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลง ท่ามกลางอุปสงค์ในภูมิภาคที่ชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบ 3 เดือน

ราคาน้ำมันดีเซล : ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงกดดันจากการส่งออกของจีนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon