CGSI : กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ผลกระทบจากราคาอลูมิเนียมที่สูงขึ้น

43

 

มิติหุ้น – ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า ราคาอลูมิเนียมในตลาด London Metal Exchange (LME) เพิ่มขึ้น 5% เป็น 2,568 เหรียญสหรัฐ/ตันวันที่ 15 เม.ย.67 ก่อนปรับฐานเล็กน้อยเป็น 2,549 เหรียญสหรัฐ/ตันในวันที่ 16 เม.ย. 67 โดย Financial Times รายงานว่า UK และสหรัฐฯสั่งห้ามซื้อขายอลูมิเนียมของรัสเซีย (คิดเป็น 6% ของอุปทานอลูมิเนียมโลก) ในตลาด LME และ Chicago Mercantile Exchange (CME)

มาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวจะทำให้อลูมิเนียม, นิกเกิลและทองแดงที่ผลิตในรัสเซียตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย. 67 ไม่สามารถส่งมายังคลังสินค้าที่ลงทะเบียนกับ LME และคลังสินค้าของ CME ทั้งนี้ราคาอลูมิเนียมวันที่ 16 เม.ย.67 สูงกว่าราคาเฉลี่ยในไตรมาส 1/67 ที่ 2,200 เหรียญสหรัฐ/ตัน ราว 16%

ฝ่ายวิเคราะห์ เชื่อว่า ราคาอลูมิเนียมที่สูงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อ CBG มากกว่าผู้ผลิตเครื่องดื่มรายอื่นในไทยที่ทำการศึกษาเนื่องจากต้นทุนอลูมิเนียมของ CBG มีสัดส่วนประมาณ 14-15% ของต้นทุนเครื่องดื่มบำรุงก าลังในปี 66 อีกทั้ง CBG เคยกล่าวว่าบริษัทไม่มีนโยบายทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงราคาอลูมิเนียม จึงประเมินว่าราคาอลูมิเนียมที่เพิ่มขึ้นทุก 10% จะส่งผลให้กำไรสุทธิของ CBG ลดลง 4% ต่อปี

ขณะที่ผลกระทบต่อกำไรสุทธิของ OSP จะน้อยกว่า เนื่องจากผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ของ OSP บรรจุอยู่ในขวดแก้ว และ OSP ยังทำสัญญาล็อคราคาอลูมิเนียมไว้แล้ว (ส่วนใหญ่สำหรับผลิตฝาของขวดแก้ว) เป็นระยะเวลา 3-6 เดือน ดังนั้นมองว่าผลกระทบต่อกำไรสุทธิในปี 67 ของ OSP น่าจะมีเพียงเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI ยังคงประมาณการกำไรของ CBG และ OSP ไว้เท่าเดิม เพราะมองว่า ราคาอลูมิเนียมน่าจะสูงขึ้นแค่ชั่วคราว โดยรายงานข่าวเมื่อวันที่ 15 เม.ย.ของ Reuters ระบุว่า Rusal ซึ่งเป็นผู้ผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่สุดของรัสเซีย (ส่วนแบ่งตลาด 5.5% ในตลาดโลก) กล่าวว่า มาตรการคว่ำบาตรไม่ส่งผลต่อการจัดส่งอลูมิเนียมเข้าสู่ตลาดโลก เนื่องจาก เครือข่ายโลจิสติกส์ทั่วโลก, การเข้าถึงระบบธนาคาร, การผลิตโดยรวมและระบบคุณภาพไม่ได้รับผลกระทบ

ทั้งนี้ ราคาอลูมิเนียมที่ 2,234 เหรียญสหรัฐ/ตัน YTD ยังคงสอดคล้องกับประมาณการของฝ่ายวิเคราะห์ แต่หากราคาทรงตัวที่ระดับนี้ในช่วงที่เหลือของปี คาดว่าประมาณการกำไรสุทธิในปี 67 ของ CBG และ OSP จะมี downside 5% และ 1% ตามลำดับ
ฝ่ายวิเคราะห์ ยังแนะนำ “ถือ” CBG ราคาเป้าหมาย 65.75 บาท มองแนวโน้มกำไรยังไม่ชัดเจน ขณะที่แนะนำ “ซื้อ” OSP ราคาเป้าหมาย 23.25 บาท เพราะกำไรสุทธิจะฟื้นตัวดีและอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลยังน่าสนใจ โดยยังแนะนำให้คงน้ำหนักการลงทุน (Neutral) ในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มเนื่องจาก EPS มีแนวโน้มเติบโตชะลอตัวในระยะยาว เพราะตลาดไทยถึงจุดอิ่มตัวแล้ว

แต่กลุ่มนี้มี upside risk หากราคาน้ำตาลปรับลงอย่างมีนัยสำคัญหลังสิ้นสุดปรากฎการณ์เอลนีโญในเดือนเม.ย. และตลาดส่งออกฟื้นตัวแข็งแกร่ง ส่วน downside risk จะมาจากต้นทุนพลังงานที่แพงขึ้นและราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon