RWI เปิดกลยุทธ์การแข่งขัน ปี 2565 Year of Growth

209

 

มิติหุ้น-บริษัทฯ ขอขอบพระคุณที่มีผู้ถือหุ้นจำนวนมากได้ยื่นแปลงสภาพ Warrant เป็นหุ้นสามัญและได้รับอนุมัติเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันที่ 18 มกราคม 2565

นายเชิดศักดิ์  กู้เกียรตินันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ระยองไวร์ อินดัสตรีส์ จำกัด (มหาชน) ได้เข้ามารับหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา ได้กล่าวถึง กลยุทธ์การแข่งขันแบบ Customer Centric และการบริหาร RWI โดยสังเขปดังนี้

การประเมินสถานะปัจจุบันจากผลประกอบการ 9 เดือนแรกปี 2564 บริษัทมีรายได้จากการผลิตและการขาย 617.6 ล้านบาท ขยายตัว 47.7% จาก 418.0 ล้านบาท ในปี 2563 และมีรายได้จากกำไรการวัดมูลค่าการลงทุน และรายได้อื่นๆ 129.9 ล้านบาท ขยายตัว 140% จาก 54.1 ล้านบาท ในปี 2563 บริษัทมีกำไรรวมสุทธิ 166.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 464% จาก 29.4 ล้านบาท ในรอบเวลาเดียวกันของปี 2563 บริษัทมีกำไรต่อหุ้น 0.27 บาท เทียบกับ 0.05 บาท ในปี 2563 และเมื่อสิ้นสุดไตรมาส 3/2564 บริษัทฯ มีอัตราส่วนกำไรสุทธิ 26.5% (4.92% ปี 2563) ROA = 16% (4.5% ปี 2563) ROE = 18.8% (3.9% ปี 2563) Net Asset Value เท่ากับ 1.56 บาทต่อหุ้น

สภาพการแข่งขัน เป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูงพอสมควรโดยมี ผู้ผลิตลวดเหล็กหลักประมาณ 10-15 ราย เป็นตลาดที่ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก เนื่องจากการขยายตัวของการก่อสร้าง มีลูกค้าธุรกิจ ประมาณ 300-400 ราย ประกอบด้วยผู้ผลิต ผลิตภัณฑ์คอนกรีตหลายประเภท บริษัทก่อสร้าง บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และบริษัทก่อสร้างโครงการสาธารณูปโภคพี้นฐาน ก่อสร้าง ขนาดใหญ่ และบริษัทอุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ

กลยุทธ์การแข่งขันของ RWI ในปี 2565 ในธุรกิจที่มีแข่งขันสูง RWI จะเน้นการลดต้นทุนทางตรงต่อหน่วย และลดต้นทุนขายและบริหารต่อหน่วย โดยเพิ่มความเร็วและปริมาณผลผลิตต่อเวลา และเน้นการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูงเน้นเพิ่มความสามารถในการตอบสนองความต้องการสินค้าวัตถุดิบให้ลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ต้องมีการบริหารการจัดซื้อและจัดการระดับสต๊อกวัตถุดิบให้อยู่ในระดับต่ำและสินค้าพร้อมส่งและบริหารลูกหนี้ให้อยู่ในระดับเหมาะสมเพื่อการบริหารสภาวะเงินสดให้สูงขึ้น และลดภาระดอกเบี้ย ส่วนการบริหารการขายและราคาสินค้าต้องเข้าถึงลูกค้าที่ใช้สินค้าหลากหลายตามกำลังการผลิตที่มีอยู่เพื่อลดการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรและเครื่องจักร

แนวโน้มธุรกิจลวดเหล็ก ในปี 2565  บริษัทได้มีแผนธุรกิจที่จะเพิ่มการผลิตและขายอีกประมาณ 15% เพิ่มขึ้นจากปี 2564 โดยมีแผนผลิตและขายเป้าหมายสูงกว่าในรอบ 3 ปี ที่ผ่านมา ส่วนกำไรก็วางเป้าเติบโตจากการผลิตที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น คุณภาพสูงขึ้น และการขายที่เน้นครอบคลุมตลาดและจำนวนลูกค้าในทุกภาคมากขึ้น และมีเป้าหมายลดค่าใช้จ่ายในการผลิตต่อตันและปริมาณการผลิตที่สูงขึ้นตรงตามการขยายตลาด

🚩🚩ห้อง Official Line ห้องไลน์ฟรี มิติหุ้น ทันทุกสถานการณ์การลงทุน หุ้นเด่น หุ้นเด็ดตลอดวัน กับห้องไลน์ @mitihoonwealth ห้องไลน์ที่นักลงทุนเข้าเป็นสมาชิกฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพียงคลิกลิงค์นี้ก็เข้าได้เลย และสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้

https://lin.ee/cXAf0Dp